- Home
- คอลัมน์พิเศษ
- ภาพยนตร์การ์ตูน
- “BLOOD-C The Last Dark ฉบับภาพ...
- ซีรีส์ “BLOOD” คืออะไร
ซีรีส์ “BLOOD” คืออะไร

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ ซีรีส์ “BLOOD” กันเพื่อไขปัญหาว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยม และเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับฉบับภาพยนตร์อย่างไร
ผู้ที่มีบทบาทในวงการอนิเมะญี่ปุ่นได้จับมือกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการอนิเมะ
เป็นที่ทราบกันดีว่าอนิเมะคือวัฒนธรรมอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งแสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่น ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเรียกอนิเมะที่ผลิตโดยญี่ปุ่นว่าเจปานิเมชั่น (Japanimation) และยอมรับว่าอนิเมะเป็นศิลปะแขนงหนึ่งเทียบได้กับงานจิตรกรรมละงานฝีมือแบบญี่ปุ่น (กล่าวกันว่าเริ่มแรกการที่ใช้คำว่า “เจปานิเมชั่น”นั้นก็เพื่อแสดงอคติและการแบ่งแยกต่อคนญี่ปุ่นและวัฒนธรรม)
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้อนิเมะของญี่ปุ่นพัฒนาจากการเป็น “การเล่นของเด็ก” กลายมาเป็นวัฒนธรรมก็คือผู้สร้างที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคระดับสูง อย่างเช่น “Production I.G” ซึ่งเป็นผู้สร้าง “BLOOD-C The Last Dark ฉบับภาพยนตร์” ที่เรานำเสนอในครั้งนี้ ก็เป็นผู้สร้างอนิเมะระดับตัวแทนญี่ปุ่น มีผลงานที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกคือเรื่อง “GHOST IN THE SHELL” (ปี 1995) กำกับโดยมาโมรุ โอชิอิ และภาคต่อของเรื่องเดียวกันนี้ที่ชื่อ “INNOCENCE” โดยเป็นผลงานของผู้กำกับคนเดียวกัน
ผลงานหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของ Production I.G และมีผู้สร้างชั้นนำของโลกยอมรับว่าเป็นแฟนก็คือ ซีรีส์ “BLOOD” นี้เอง โดยมีซีรีส์แรกที่ออกสู่สายตาประชาชนในปี 2000คือ “BLOOD THE LAST VAMPIRE” โดยขณะนั้นได้มีการนำเทคโนโลยีทางดิจิตอลที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาใช้ในการผลิต ทำให้ได้ความสวยงามของภาพและการแสดงมุมมองแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ความสมบูรณ์ของผลงานนั้นถึงกับได้รับการยกย่องจากเหล่าครีเอเตอรร์ชื่อดังอย่าง เควนติน แทแรนติโนและเจมส์ คาเมรอน และต่อมาในปี2005 ก็ได้มีการฉาย “BLOOD+” ทางโทรทัศน์โดยมีทั้งหมด 50 ตอนด้วยกัน และอนิเมะอิงประวัติศาสตร์เรื่องเดียวกันนี้ทั้ง 6 ภาคที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ และปีที่ผ่านมาภาคใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า “BLOOD-C” ก็ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ โดยมีกลุ่มนักเขียนการ์ตูน “CLAMP” ซึ่งเป็นผู้สร้างผลงานที่มีชื่อเสียง เช่น “xxxHOLiC” “ดิจิทัลเลดี้ (Chobits)” เป็นผู้วาดลายเส้น
“BLOOD-C” เป็นภาคปัญหาของ “BLOOD” ซึ่งมีการปิดฉากลงอย่างน่าสะพรึง และปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ หลังจากที่ “BLOOD-C” ลาจอโทรทัศน์ไปแล้ว 9 เดือนก็ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์อนิเมชั่นภาคจบ “BLOOD-C The Last Dark” กำกับโดยนาโอโยชิ ชิโอทานิ ซึ่งเป็นวิชวลลิสต์(visualist) ผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นความภาคภูมิใจของ Production I.G ผู้เขียนบทคือนานาเสะ โอคาวะ จาก “CLAMP” และจุนอิจิ ฟุจิซาขุ ผู้เขียนบท “BLOOD-C” ที่พลาดไม่ได้ก็คือเหล่านักพากย์ซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับภาคโทรทัศน์ มีทั้งนานะ มิซึกิ พากย์บทตัวละครหลักคือซายะ และมีไอ ฮาชิโมโตะ ซึ่งเป็นนักแสดงหน้าใหม่ได้รับเลือกให้พากย์บทฮิระกิ มานะซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวไขปริศนา พวกเขาเหล่านี้จะมาถ่ายทอดบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นให้ได้รับชมกัน
“BLOOD-C The Last Dark” ภาพยนตร์การ์ตูนที่ถูกจับตามองซึ่งกำเนิดขึ้นโดยการสร้างผู้ที่มีบทบาทในวงการและตัวละครต่างๆ จะมาเปิดฉากสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการอนิเมะญี่ปุ่นวันที่ 2 มิถุนายนนี้
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้อนิเมะของญี่ปุ่นพัฒนาจากการเป็น “การเล่นของเด็ก” กลายมาเป็นวัฒนธรรมก็คือผู้สร้างที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคระดับสูง อย่างเช่น “Production I.G” ซึ่งเป็นผู้สร้าง “BLOOD-C The Last Dark ฉบับภาพยนตร์” ที่เรานำเสนอในครั้งนี้ ก็เป็นผู้สร้างอนิเมะระดับตัวแทนญี่ปุ่น มีผลงานที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกคือเรื่อง “GHOST IN THE SHELL” (ปี 1995) กำกับโดยมาโมรุ โอชิอิ และภาคต่อของเรื่องเดียวกันนี้ที่ชื่อ “INNOCENCE” โดยเป็นผลงานของผู้กำกับคนเดียวกัน
ผลงานหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของ Production I.G และมีผู้สร้างชั้นนำของโลกยอมรับว่าเป็นแฟนก็คือ ซีรีส์ “BLOOD” นี้เอง โดยมีซีรีส์แรกที่ออกสู่สายตาประชาชนในปี 2000คือ “BLOOD THE LAST VAMPIRE” โดยขณะนั้นได้มีการนำเทคโนโลยีทางดิจิตอลที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาใช้ในการผลิต ทำให้ได้ความสวยงามของภาพและการแสดงมุมมองแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ความสมบูรณ์ของผลงานนั้นถึงกับได้รับการยกย่องจากเหล่าครีเอเตอรร์ชื่อดังอย่าง เควนติน แทแรนติโนและเจมส์ คาเมรอน และต่อมาในปี2005 ก็ได้มีการฉาย “BLOOD+” ทางโทรทัศน์โดยมีทั้งหมด 50 ตอนด้วยกัน และอนิเมะอิงประวัติศาสตร์เรื่องเดียวกันนี้ทั้ง 6 ภาคที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ และปีที่ผ่านมาภาคใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า “BLOOD-C” ก็ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ โดยมีกลุ่มนักเขียนการ์ตูน “CLAMP” ซึ่งเป็นผู้สร้างผลงานที่มีชื่อเสียง เช่น “xxxHOLiC” “ดิจิทัลเลดี้ (Chobits)” เป็นผู้วาดลายเส้น
“BLOOD-C” เป็นภาคปัญหาของ “BLOOD” ซึ่งมีการปิดฉากลงอย่างน่าสะพรึง และปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ หลังจากที่ “BLOOD-C” ลาจอโทรทัศน์ไปแล้ว 9 เดือนก็ได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์อนิเมชั่นภาคจบ “BLOOD-C The Last Dark” กำกับโดยนาโอโยชิ ชิโอทานิ ซึ่งเป็นวิชวลลิสต์(visualist) ผู้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นความภาคภูมิใจของ Production I.G ผู้เขียนบทคือนานาเสะ โอคาวะ จาก “CLAMP” และจุนอิจิ ฟุจิซาขุ ผู้เขียนบท “BLOOD-C” ที่พลาดไม่ได้ก็คือเหล่านักพากย์ซึ่งเป็นชุดเดียวกันกับภาคโทรทัศน์ มีทั้งนานะ มิซึกิ พากย์บทตัวละครหลักคือซายะ และมีไอ ฮาชิโมโตะ ซึ่งเป็นนักแสดงหน้าใหม่ได้รับเลือกให้พากย์บทฮิระกิ มานะซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวไขปริศนา พวกเขาเหล่านี้จะมาถ่ายทอดบรรยากาศอันน่าตื่นเต้นให้ได้รับชมกัน
“BLOOD-C The Last Dark” ภาพยนตร์การ์ตูนที่ถูกจับตามองซึ่งกำเนิดขึ้นโดยการสร้างผู้ที่มีบทบาทในวงการและตัวละครต่างๆ จะมาเปิดฉากสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการอนิเมะญี่ปุ่นวันที่ 2 มิถุนายนนี้
WHAT’S NEW
EDITORS' PICKS
PRESENTS
asianbeat's present campaign!
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง คุณ Aoyama Yoshino, คุณ Suzushiro Sayumi สำหรับ 2 ท่าน
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง Okasaki Miho คุณ Kumada Akane และคุณMindaRyn สำหรับ 2 ท่าน
- ◆Winner announced! ลุ้นรับของรางวัลจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์" สำหรับ 3 ท่าน