มิสุตะเท็นมังกู ใช้เวลาเดินจาก JR สถานีฮะอินุสึกะราว 20 นาที หรือจะนั่งรถบัสที่ตรงไปยังมิสุตะเท็นมังกูจากสถานีเดียวกันเลยก็ได้ ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่สักการะสุกาวาระโนะมิชิซาเนะ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งวิชาการ ที่นี่นับได้ว่าเป็น “1 ใน 2 เท็นมังกูที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู” ทัดเทียมกับดาไซฟุเท็นมังกู มีอนุสรณ์วัวและนกอุโสะ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับมิชิซาเนะ และต้นบ๊วยให้ชมด้วย ในมุมหนึ่งของเขตศาลเจ้าเท็นมังกูแห่งนี้ มี “ศาลเจ้าโคอิโนะกิ” ที่สักการะโคอิโนะมิโคโตะ เทพเจ้าแห่งความรัก ซึ่งมีอยู่หนึ่งเดียวในประเทศ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคสมัยคามาคุระ โดยใช้ชื่อ “โคอิโนะกิ” ซึ่งเป็นชื่อของสถานที่ใกล้เคียง เพื่อปลอบประโลมมิชิซาเนะที่ถูกโยกย้ายไปรับราชการที่ดาไซฟุและเสียชีวิตทั้งๆ ที่ยังคิดถึงครอบครัวในเมืองหลวงที่จากมา ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักในฐานะเทพเจ้าแห่งความรักและความสัมพันธ์ ไปยังแหล่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีผู้ศรัทธาจากทั้งในและต่างประเทศมาเยือนเพื่ออธิษฐานขอพรให้ความสัมพันธ์ราบรื่นกันค่ะ! ว่ากันว่าในศาลเจ้าและพื้นที่รอบๆ มีหัวใจกว่า 300 ดวงซ่อนอยู่ คุณหาเจอแล้วกี่ดวงคะ?

หากกล่าวถึงเท็นมังกู ต้องนึกถึง “บ๊วยบิน” “นกอุโสะ” และ “วัวกะกิว” ลองไปหาในศาลเจ้ากันดูนะคะ

จากทางเดินไปศาลเจ้า ก็เจอจุดถ่ายรูปทันที


ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไรหรอเนี่ย!? โทริอินี้ก็มีหัวใจซ่อนอยู่กว่า 10 ดวงเลยแหละ!

รูปหัวใจที่เป็นตราสัญลักษณ์ของศาลเจ้า เป็นแบบที่เรียกว่า “อิโนะเมะ (ดวงตาหมูป่า)” มีความหมายถึงเครื่องรางที่ช่วยคุ้มครองป้องกันภัยด้วย

โคมไฟหินก็มีรูปแบบที่น่ารัก♡


ตราประทับศักดิ์สิทธิ์ไปจนถึงเครื่องรางก็เต็มไปด้วยหัวใจ!

"ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ “ศาลเจ้าวาเลนไทน์” ที่จะคึกคักไปด้วยผู้คนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และยังมีงานเทศกาลในเดือนมีนาคม ตุลาคมและพฤศจิกายน ในช่วงนั้นใบเซียมซีจะแปลงร่างเป็นสีชมพู!

ตอนผูกใบเซียมซี มีคำแนะนำให้ผูกเป็นรูปหัวใจด้วยล่ะ