- Home
- คอลัมน์พิเศษ
- Interview Now
- Interview Now ~MimimemeMIMI ทา...
Interview Now ~MimimemeMIMI ทาคาโอะ ยูกิ (Takao Yuki)~(1/3)
Previous | Next

คุณทาคาโอะ ยูกิ (Takao Yuki) หรือชื่อในวงการ "MimimemeMIMI" นักพากษ์และนักร้องเพลง กับอัลบั้มที่สองที่มีชื่อว่า "Kimi no Heroine ni Naritakute" ที่เพิ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในวันนี้เรามาพบกับบทสัมภาษณ์พิเศษของเธอ เปิดใจหลังจากออกอัลบั้มแรก "Meikyuu Sentimental" และเรื่องส่วนตัวของเธออีกมากมาย! อยากให้อ่านให้จบเพราะตอนท้ายมีลายเซ็นเป็นของรางวัลด้วยนะคะ!
อัลบั้มเพลงป๊อปที่อยากให้ฟังและนึกถึงคนที่สำคัญในชีวิตของเรา

Q: ช่วยบอกความรู้สึกที่มีต่อ "Kimi no Heroine ni Naritakute" อัลบัมที่สองที่เริ่มวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม หลังจากที่ไม่ออกอัลบั้มมาเกือบ 2 ปี
A : อัลบั้มนี้มีชื่อว่า "Kimi no Heroine ni Naritakute" ซึ่งคำว่า "Heroine" เป็นคำหลักของอัลบั้มนี้ค่ะ ทุกคนที่ได้ฟังเพลงจะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวละครเอกในเรื่อง ซึ่งตอนที่เขียนเพลงนี้ก็มักจะนึกอยู่เสมอว่าเพลงนี้ก็คงเป็นช่วงเวลาที่ไม่ว่าใครก็อยากจะเป็น Heroine ของใครสักคนแน่ๆ
ยกตัวอย่างเช่นอาจจะเป็นคนที่อยู่รอบ ๆ แล้วคนที่สำคัญอาจจะเป็นคนที่พบจากนี้ อัลบั้มแรกคือการบอกว่า "เขาวงกตซาบซึ้ง" หรือเป็นเพลงในของตัวเองและฉันร้องเพลงก็มักจะขัดแย้ง Teyuu Dattari ที่ได้รับหายไปในเปลือกของตัวเองเป็นจำนวนมากจะทำอย่างไรที่จะอยู่ระหว่างสองปีที่ผ่านมา อากาศหรือความคิดของผู้ชมหรือเป็นเพลงที่จะเขียนคิดว่าผู้ชมได้เพิ่มขึ้นจริงๆสามารถเขียนเพลงในคนที่พระเอกของพวกเขาไม่ได้เป็น คราวนี้วิ่งออกมาจากเปลือก Tteyuu ตัวเองนี้คนที่มีความคิดที่ว่าฉันต้องการที่จะทำให้โลกของอัลบั้มที่ Tteyuu โลกที่คุณอยู่ด้วยกันในชื่อของ "ผมต้องการที่จะเป็นเด็กของนางเอก" คนสำคัญ มันได้กลายเป็นที่จะจินตนาการฟังต้องการอัลบั้มป๊อป
ซึ่งอาจจะเป็นคนที่อยู่รอบตัว คนพิเศษ หรือคนที่กำลังจะได้เจอในอนาคตก็เป็นไปได้ ส่วนอัลบั้มแรกมีชื่อว่า "Meikyuu Sentimental" มักจะเป็นเพลงที่ออกมาจากส่วนลึกของตัวเอง และความขักแย้งภายในตัวเอง แต่ใน 2 ปีที่ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตเป็นจำนวนมาก ก็มักจะเขียนเพลงเพื่อผู้ฟัง และเขียนเพลงให้เป็นใครสักคนที่ไม่ใช่ตัวเองมากขึ้นค่ะ ในครั้งนี้เป็นอัลบั้มเพลงป๊อปที่ฟังแล้วนึกถึงคนสำคัญ จึงเป็นที่มาของชื่ออัลบั้มที่ว่า "Kimi no Heroine ni Naritakute" โดยสร้างมุมมองของอัลบั้มเพลงในพื้นที่สักแห่งที่ต้องอยู่ร่วมกับใครสักคนที่สลัดความเป็นตัวเองออกไปหมดแล้วนั่นเอง
Q : อัลบั้มที่สอง "Yori Pop & Cute!" นั้นมีแต่เพลงที่โดนๆ เนื้อร้องก็น่ารักอีกด้วยเนอะ เป็นเพลงมาจากเรื่องราวของตัวเองหรือเปล่าคะ?
A : คำร้องที่ว่า "ชา ชา ช่า" แต่งมาจากชีวิตประจำวันของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านนิยายแนวลึกลับ สิ่งที่คิดออกมาขณะนั่งอยู่บนรถไฟ หรือฉากในชีวิตธรรมดาๆทั่วไป เป็นคำร้องที่ออกมาจากเรื่องจริงที่อยากทำให้เป็นเนื้อเพลงค่ะ อย่างเพลง "Tentekomai" ก็เป็นเพลงที่มาจากเทศกาลค่ะ โดยส่วนมากแล้วเนื้อเพลงส่วนใหญ่จะใส่ประสบการณ์จริงๆของตัวเองลงไปนั่นเองค่ะ
Q : ชอบเพลงอะไรมากที่สุดในอัลบั้มนี้?
A : อัลบั้มในครั้งนี้ได้รับการควบคุมจากนั่งแต่งเพลงแอนิเมชั่นระดับโลก บทเพลงที่ชอบ คือ "Aoi Tori (Blue Bird)" เป็นเพลงจากคุณ fhána ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้มนี้ค่ะ ซึ่งเพลงแรกของอัลบั้ม คือ "Shiroi Tori (White Bird)" และเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม คือ "Aoi Tori (Blue Bird)" เพลงนี้ถูกแต่งขึ้นในธีมของสิ่งที่เหมือนแสงที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าค่ะ
ส่วนตัวชอบ "Aoi Tori (Blue Bird) ของ Grimms' Fairy Tales เจ้านกสีฟ้า หมายถึง การค้นหานกสีฟ้าแห่งความสุข ไม่ว่าจะหาอย่างไรก็หาไม่พบ ซึ่งจริงๆแล้วเจ้านกสีฟ้าที่ว่าก็คือนกสีขาวที่เลี้ยงไว้ตั้งแต่แรกนั่นเอง ความสุขที่แท้จริงแล้วอยู่ใกล้ตัวเรามาก ยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ก็ยิ่งเข้าใจ เป็นเพลงที่เกี่ยวกับแสงที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าและความสุขค่ะ หากถามว่าทำไมต้องขึ้นด้วยเพลงแรกด้วย "Shiroi Tori (White Bird)" และปิดท้ายด้วย "Aoi Tori (Blue Bird)" นั่นก็หมายถึง นกสีขาวที่เห้นในตอนแรกก็คือนกสีฟ้าในตอนสุดท้ายนั่นเอง อยากให้ทุกคนที่ได้ฟังเพลงของเราเข้าใจการเปลี่ยนแปลง ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และได้รับการเติมแต่งสีสันของชีวิตประจำวันไปด้วยค่ะ จึงเป้นเหตุผลที่ชอบเพลงนี้ เพราะเป็นเพลงงดงามที่มีสีสันนั่นเองค่ะ
Previous | Next
WHAT’S NEW
EDITORS' PICKS
PRESENTS
asianbeat's present campaign!
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง คุณ Aoyama Yoshino, คุณ Suzushiro Sayumi สำหรับ 2 ท่าน
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง Okasaki Miho คุณ Kumada Akane และคุณMindaRyn สำหรับ 2 ท่าน
- ◆Winner announced! ลุ้นรับของรางวัลจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์" สำหรับ 3 ท่าน