- Home
- คอลัมน์พิเศษ
- ภาพยนตร์การ์ตูน
- “BLOOD-C The Last Dark ฉบับภาพ...
- บทสัมภาษณ์พิเศษนานะ มิซึกิ / จ...
บทสัมภาษณ์พิเศษนานะ มิซึกิ / จุนอิจิ ฟุจิซาขุ(2/3)

มาฟังนานะ มิซึกิ ผู้พากย์บทซายะ ตัวเอกเรื่อง “BLOOD-C” พูดถึงเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงแรงกระตุ้นที่ทำให้เธอสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ในฐานะศิลปิน
ตอนที่กำลังพากย์บทซายะอยู่ ก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกฝึกประสาทสัมผัสการรับรู้เป็นอย่างมาก
เอเชียนบีท (ab):ก่อนอื่น อยากทราบว่ารู้จักซีรีส์ “BLOOD” ได้อย่างไร
นานะ มิซึกิ (มิซึกิ):รู้จักซีรีส์ “BLOOD” มาก่อนหน้านี้แล้วเพราะเคยดูมาบ้างจากที่ต่าง ๆ แต่ได้มามีส่วนร่วมจริง ๆก็ตั้งแต่ “BLOOD-C”
ab:ซายะฉบับโทรทัศน์กับฉบับภาพยนตร์แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ตอนพากย์ต้องตั้งสติเพื่อปรับอารมณ์ไหม
มิซึกิ:ในฉบับโทรทัศน์ซายะได้ถูกเปลี่ยนความทรงจำก็เลยกลายเป็น “ซายะปลอม” คือบุคลิกจะเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงใส ๆ มองอะไรแบบบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่ในฉบับภาพยนตร์จะเป็นตอนที่ความทรงจำของซายะกลับมาแล้วและเป็นตัวตนที่แท้จริงของซายะ ดังนั้นจึงต้องปรับคาแรกเตอร์ให้มีบุคลิกที่ค่อนข้างจะมีสัญชาติญาณคล้ายสัตว์ป่าทำอะไรตามประสาทสัมผัสที่รับรู้ได้ (เมื่อเทียบกับฉบับโทรทัศน์) ระหว่างฉบับโทรทัศน์กับภาพยนตร์ก็จะมีวิธีเข้าถึงคาแรกเตอร์ของตัวละครที่แตกต่างกันออกไป แต่คิดว่าส่วนที่เป็นแก่นทางความรู้สึกนั้นมีสิ่งที่เชื่อมโยงกันอยู่ดังนั้นตอนอัดเสียงก็เลยปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
นานะ มิซึกิ (มิซึกิ):รู้จักซีรีส์ “BLOOD” มาก่อนหน้านี้แล้วเพราะเคยดูมาบ้างจากที่ต่าง ๆ แต่ได้มามีส่วนร่วมจริง ๆก็ตั้งแต่ “BLOOD-C”
ab:ซายะฉบับโทรทัศน์กับฉบับภาพยนตร์แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ตอนพากย์ต้องตั้งสติเพื่อปรับอารมณ์ไหม
มิซึกิ:ในฉบับโทรทัศน์ซายะได้ถูกเปลี่ยนความทรงจำก็เลยกลายเป็น “ซายะปลอม” คือบุคลิกจะเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงใส ๆ มองอะไรแบบบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่ในฉบับภาพยนตร์จะเป็นตอนที่ความทรงจำของซายะกลับมาแล้วและเป็นตัวตนที่แท้จริงของซายะ ดังนั้นจึงต้องปรับคาแรกเตอร์ให้มีบุคลิกที่ค่อนข้างจะมีสัญชาติญาณคล้ายสัตว์ป่าทำอะไรตามประสาทสัมผัสที่รับรู้ได้ (เมื่อเทียบกับฉบับโทรทัศน์) ระหว่างฉบับโทรทัศน์กับภาพยนตร์ก็จะมีวิธีเข้าถึงคาแรกเตอร์ของตัวละครที่แตกต่างกันออกไป แต่คิดว่าส่วนที่เป็นแก่นทางความรู้สึกนั้นมีสิ่งที่เชื่อมโยงกันอยู่ดังนั้นตอนอัดเสียงก็เลยปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ

ab:ตอนพากย์มีเรื่องที่ต้องระวังตรงไหนบ้างไหม
มิซึกิ:อย่างแรกคือผู้กำกับบอกว่า “ตั้งแต่ออกจากเมืองอุคิชิมะมา ซายะก็ไม่ได้ดื่ม ไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเลยตลอดสี่เดือน” (หัวเราะ) คำพูดของผู้กำกับนี้เป็นสิ่งที่กำหนดทิศทางการพากย์ค่ะ ก็เลยคิดได้ว่าซายะอยู่ในสภาพที่สุดๆขนาดไหน ดังนั้นเวลาจะทำอะไรก็เลยใช้การตอบสนองอัตโนมัติต่อประสาทสัมผัสที่รับรู้แทนที่จะใช้สมองคิด ตรงนี้นี่เองที่ทำให้ซายะในช่วงครึ่งแรกของฉบับภาพยนตร์สื่อสารกับคนไม่ค่อยเข้าใจ คิดว่าเนื่องจากตลอดสี่เดือนซายะคิดแต่เรื่องของฟุมิฮิโตะกับปีศาจ ตัดขาดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งอื่นๆ จนถึงลืมวิธีสื่อสารกับคน นอกจากนี้คิดว่ายังเป็นเพราะกลัวที่จะโดนถูกหักหลังหรือหากไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นก็จะยุ่งยากหรือพัวพันกับปัญหาอีก แต่พอได้พบกับมานะความรู้สึกนั้นก็ค่อยๆหายไป ฉากที่แสดงให้เห็นความรู้สึกของซายะส่วนนี้ก็จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษค่ะ นอกจากนี้ตอนที่กำลังพากย์บทซายะอยู่ ก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกฝึกประสาทสัมผัสการรับรู้เป็นอย่างมากค่ะ เพราะค่อนข้างจะเป็นการอธิบายสิ่งที่อยู่ในใจที่ละเอียดอ่อนมากจึงต้องคอยระวังเรื่องการควบคุมบาลานซ์ของพลังเพื่อไม่ให้อารมณ์ล้นจนเกินไป ตอนที่พากย์บทซายะรู้สึกได้ว่ามีสมาธิและระบบประสาทการตอบสนองที่ดีจนถึงขั้นที่ว่าน่าจะใช้ตะเกียบจับแมลงที่บินไปบินมาได้เลยนะเนี่ย(หัวเราะ)
ab:ดูเป็นกองถ่ายที่ลำบากเอาการ ได้จัดเตรียมอะไรไว้สำหรับระหว่างการบันทึกเสียงบ้างหรือเปล่า ?
มิซึกิ:ปกติฉันเป็นคนที่เส้นเสียงแข็งแรงดีไม่ค่อยมีอาการเจ็บคอเท่าไหร่ แต่การพากย์เรื่องนี้ทำให้ฉันกลายเป็นเหมือนสัตว์ป่า อินไปกับบทบาท จนต้องตะเบ็งเสียงตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ต้องเตรียมของหลาย ๆ อย่าง เช่น ชาสมุนไพร น้ำเต้าหู้ ยาอมแก้เจ็บคอ หรือน้ำผึ้ง ไว้เตรียมรับมือกับอาการเจ็บคอค่ะ
ab:คุณมิซึกิไม่ได้เป็นเพียงนักพากย์ แต่ยังเป็นศิลปินที่มีผลงานเป็นที่รู้จักอยู่ในตอนนี้ คุณเอาพลังมาจากที่ไหนมาทำอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันอย่างนี้ ?
มิซึกิ: สิ่งที่ฉันคิดอยู่เสมอก็คือ อยากทำให้ทุกคนยิ้ม สนุกกับการรับชมผลงานของฉันค่ะ ฉันชอบร้องเพลงมาก ฉันดีใจที่มีคนชอบงานเพลงของฉัน ฉันเป็นนักพากย์ ใส่จิตวิญญาณของฉันลงไปในตัวละครขณะพากย์แล้วทำให้ทุกคนรักตัวละครของฉัน เมื่อได้รับคำติชมจากจากทุกคน ยิ่งทำให้ฉันอยากจะสร้างอะไรให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ต่อไปเรื่อย ๆ เสียงตอบรับจากแฟน ๆ ทุกคน เป็นแรงกระตุ้นอันทรงพลังของฉันค่ะ
ab:ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่น อนิเมะของญี่ปุ่น ยังได้รับความนิยมจากทั่วโลก ในฐานะที่เป็นนักพากย์และนักร้อง มีสิ่งใดที่ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความจริงข้อนี้บ้าง?
มิซึกิ:มีแฟนจากต่างประเทศมาร่วมงานแสดงสดบ้าง ได้รับจดหมายและข้อความผ่านบล็อกจากแฟนๆ ชาวต่างชาติมากขึ้น แต่ว่าตัวฉันเองยังไม่เคยร่วมงานในต่างประเทศเลย อยากจะไปเจอแฟนๆในประเทศต่างๆ
ab:สุดท้ายนี้ อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้บ้าง?
มิซึกิ:“BLOOD-C The Last Dark” เป็นผลงานที่ดาร์คและคูล มีพลังสมชื่อ อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองที่โรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม ฉันได้รับเชิญไปร่วมแสดงในงานคอนเสิร์ต “Animelo Summer Live 2012” ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นการขึ้นเวทีในต่างประเทศครั้งแรกของฉัน ฉันตื่นเต้นและยินดีมากที่จะได้เจอกับทุกคนค่ะ ที่งานฉันจะขึ้นร้องเพลงของเรื่อง “BLOOD-C The Last Dark“ ด้วย ขอให้ทุกคนมาเที่ยวงานกันเยอะ ๆ นะคะ

มิซึกิ:อย่างแรกคือผู้กำกับบอกว่า “ตั้งแต่ออกจากเมืองอุคิชิมะมา ซายะก็ไม่ได้ดื่ม ไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเลยตลอดสี่เดือน” (หัวเราะ) คำพูดของผู้กำกับนี้เป็นสิ่งที่กำหนดทิศทางการพากย์ค่ะ ก็เลยคิดได้ว่าซายะอยู่ในสภาพที่สุดๆขนาดไหน ดังนั้นเวลาจะทำอะไรก็เลยใช้การตอบสนองอัตโนมัติต่อประสาทสัมผัสที่รับรู้แทนที่จะใช้สมองคิด ตรงนี้นี่เองที่ทำให้ซายะในช่วงครึ่งแรกของฉบับภาพยนตร์สื่อสารกับคนไม่ค่อยเข้าใจ คิดว่าเนื่องจากตลอดสี่เดือนซายะคิดแต่เรื่องของฟุมิฮิโตะกับปีศาจ ตัดขาดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งอื่นๆ จนถึงลืมวิธีสื่อสารกับคน นอกจากนี้คิดว่ายังเป็นเพราะกลัวที่จะโดนถูกหักหลังหรือหากไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นก็จะยุ่งยากหรือพัวพันกับปัญหาอีก แต่พอได้พบกับมานะความรู้สึกนั้นก็ค่อยๆหายไป ฉากที่แสดงให้เห็นความรู้สึกของซายะส่วนนี้ก็จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษค่ะ นอกจากนี้ตอนที่กำลังพากย์บทซายะอยู่ ก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกฝึกประสาทสัมผัสการรับรู้เป็นอย่างมากค่ะ เพราะค่อนข้างจะเป็นการอธิบายสิ่งที่อยู่ในใจที่ละเอียดอ่อนมากจึงต้องคอยระวังเรื่องการควบคุมบาลานซ์ของพลังเพื่อไม่ให้อารมณ์ล้นจนเกินไป ตอนที่พากย์บทซายะรู้สึกได้ว่ามีสมาธิและระบบประสาทการตอบสนองที่ดีจนถึงขั้นที่ว่าน่าจะใช้ตะเกียบจับแมลงที่บินไปบินมาได้เลยนะเนี่ย(หัวเราะ)
ab:ดูเป็นกองถ่ายที่ลำบากเอาการ ได้จัดเตรียมอะไรไว้สำหรับระหว่างการบันทึกเสียงบ้างหรือเปล่า ?
มิซึกิ:ปกติฉันเป็นคนที่เส้นเสียงแข็งแรงดีไม่ค่อยมีอาการเจ็บคอเท่าไหร่ แต่การพากย์เรื่องนี้ทำให้ฉันกลายเป็นเหมือนสัตว์ป่า อินไปกับบทบาท จนต้องตะเบ็งเสียงตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ต้องเตรียมของหลาย ๆ อย่าง เช่น ชาสมุนไพร น้ำเต้าหู้ ยาอมแก้เจ็บคอ หรือน้ำผึ้ง ไว้เตรียมรับมือกับอาการเจ็บคอค่ะ
ab:คุณมิซึกิไม่ได้เป็นเพียงนักพากย์ แต่ยังเป็นศิลปินที่มีผลงานเป็นที่รู้จักอยู่ในตอนนี้ คุณเอาพลังมาจากที่ไหนมาทำอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันอย่างนี้ ?
มิซึกิ: สิ่งที่ฉันคิดอยู่เสมอก็คือ อยากทำให้ทุกคนยิ้ม สนุกกับการรับชมผลงานของฉันค่ะ ฉันชอบร้องเพลงมาก ฉันดีใจที่มีคนชอบงานเพลงของฉัน ฉันเป็นนักพากย์ ใส่จิตวิญญาณของฉันลงไปในตัวละครขณะพากย์แล้วทำให้ทุกคนรักตัวละครของฉัน เมื่อได้รับคำติชมจากจากทุกคน ยิ่งทำให้ฉันอยากจะสร้างอะไรให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ต่อไปเรื่อย ๆ เสียงตอบรับจากแฟน ๆ ทุกคน เป็นแรงกระตุ้นอันทรงพลังของฉันค่ะ
ab:ไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่น อนิเมะของญี่ปุ่น ยังได้รับความนิยมจากทั่วโลก ในฐานะที่เป็นนักพากย์และนักร้อง มีสิ่งใดที่ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความจริงข้อนี้บ้าง?
มิซึกิ:มีแฟนจากต่างประเทศมาร่วมงานแสดงสดบ้าง ได้รับจดหมายและข้อความผ่านบล็อกจากแฟนๆ ชาวต่างชาติมากขึ้น แต่ว่าตัวฉันเองยังไม่เคยร่วมงานในต่างประเทศเลย อยากจะไปเจอแฟนๆในประเทศต่างๆ
ab:สุดท้ายนี้ อยากฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้บ้าง?
มิซึกิ:“BLOOD-C The Last Dark” เป็นผลงานที่ดาร์คและคูล มีพลังสมชื่อ อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองที่โรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม ฉันได้รับเชิญไปร่วมแสดงในงานคอนเสิร์ต “Animelo Summer Live 2012” ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นการขึ้นเวทีในต่างประเทศครั้งแรกของฉัน ฉันตื่นเต้นและยินดีมากที่จะได้เจอกับทุกคนค่ะ ที่งานฉันจะขึ้นร้องเพลงของเรื่อง “BLOOD-C The Last Dark“ ด้วย ขอให้ทุกคนมาเที่ยวงานกันเยอะ ๆ นะคะ

ประวัติของ มิซึกะ นานะ
สังกัดบริษัท Sigma Seven Co., Ltd. ผลงานการพากย์เด่น ๆ ได้แก่ HEART CATCH PRECURE! พากย์เสียงเป็น Tsubomi Hanasaki/Cure Blossom, “MAGICAL GIRL LYRICAL NANOHA series (Mahō Shōjo Ririkaru Nanoha)“ พากย์เสียงเป็น Fate Testarossa, “DOGDAY“ พากย์เสียงเป็น Ricotta Elmar, “SENKI ZESSHOU SYMPHOGEAR“ พากย์เสียงเป็น Tsubasa Kazanari และผลงานการพากย์อื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ในฐานะนักร้องที่มีผลงานโดดเด่น มิซึกิ นานะ ยังได้ขึ้นเวทีการร้องเพลงประจำปี KOUHAKU ของสถานีโทรทัศน์ NHK ติดต่อกันสามปีซ้อน และร่วมคอนเสิร์ต 2days ที่โตเกียวโดมอีกด้วย
■Official Sitehttp://www.mizukinana.jp
■Official Blog http://blog.mizukinana.jp/blog_nana
■Official Sitehttp://www.mizukinana.jp
■Official Blog http://blog.mizukinana.jp/blog_nana
WHAT’S NEW
読込中...
EDITORS' PICKS
PRESENTS
asianbeat's present campaign!
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง คุณ Aoyama Yoshino, คุณ Suzushiro Sayumi สำหรับ 2 ท่าน
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง Okasaki Miho คุณ Kumada Akane และคุณMindaRyn สำหรับ 2 ท่าน
- ◆Winner announced! ลุ้นรับของรางวัลจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์" สำหรับ 3 ท่าน