icon ขณะนี้ได้มีมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสใหม่ในแต่ละพื้นที่ กรุณาตรวจสอบข้อมูลการเคลื่อนไหวของงานกิจกรรมและร้านค้าต่างๆตามเว็บไซต์
icon ขณะนี้ได้มีมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสใหม่ในแต่ละพื้นที่
กรุณาตรวจสอบข้อมูลการเคลื่อนไหวของงานกิจกรรมและร้านค้าต่างๆตามเว็บไซต์

asianbeat เว็ปไซด์เสนอข้อมูลข่าวสารแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเยาวชนเอเชีย

  • facebook
  • Instagram

บทสัมภาษณ์ คุณ Aika Shigma ครั้งที่ 2(1/2)

Previous  |  
コスラボ -日本編-  AIKA SHIGMA ผู้เผยแพร่วัฒนธรรมคอสเพลย์ไปทั่วทุกมุมโลกคู่กับ KONOMI AKIRA ต่อจากนี้ จะเป็นบทสัมภาษณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่คุกรุ่นจากเธอผู้ซึ่งได้นำความแปลกใหม่มาสู่ญี่ปุ่นด้วยการตั้งทีมการแสดงคอสเพลย์จากการนำประสบการณ์ที่ได้จากต่างประเทศมาใช้

การที่ได้เพื่อนพ้องมาจากทั่วมุมโลกโดยผ่านการแต่งคอสเพลย์มันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ

คำถาม (จากนี้ไปจะใช้ตัวย่อ Q): แรงจูงใจที่ทำให้เริ่มแต่งคอสเพลย์คือ?

AIKA SHIGMA (จากนี้ไปจะใช้คำว่า SHIGMA): ตอนอยู่มัธยมปลาย เพื่อนร่วมชั้นชวนไปงานโดจินค่ะ พอฉันเห็นคนที่แต่งคอสเพลย์เรื่อง BAKUSHO KYODAI LET’S GO!! ที่ชั้นชอบมากในตอนนั้น ทำให้รู้สึกอยากถ่ายรูปกับพวกเขา แล้วก็อยากลองเป็นตัวละครที่ฉันชอบมากดูบ้าง ก็เลยตัดสินใจว่า งานคราวหน้าฉันจะแต่งบ้าง แล้วก็ได้แต่งจริงๆ นั่นแหละค่ะแรงจูงใจของฉัน

Q: กิจกรรมที่ทำเป็นประจำในฐานะคอสเพลย์เยอร์คือ?

SHIGMA: ก็มีทำชุดไปงานอีเวนท์ ถ่ายรูปคอสเพลย์กับกลุ่มเพื่อน หรือไม่ก็ทำอัลบั้มรวมรูปผลงานเรื่องที่ชอบน่ะค่ะ แล้วฉันก็สนใจการทำคลิปวีดีโอด้วย บางครั้งก็จะแต่งคอสเพลย์เรื่อง Inazuma Eleven, VOCALOID หรือ HAKUOKI ไปทำเป็นคลิปวีดีโอ นอกจากนี้ก็มีครีเอทการแสดงบนเวทีกับเพื่อนในทีมคอสเพลย์ที่ชื่อ CosPAfo ด้วยค่ะ ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่น ก็เคยแต่งคอสเพลย์เรื่อง HAKUOKI เดินแฟชั่นโชว์ด้วยชุดที่ทำจากผ้าไหมทันโกะแบบดั้งเดิมที่ศาลเจ้าในเกียวโต และเคยได้รับเชิญไปแต่งคอสเพลย์เป็นชินเซ็นกุมิซึ่งมีความเกี่ยวพันกับเมืองเกียวโตอย่างลึกซึ้ง ในงานอีเวนท์ในเมืองเกียวโตด้วยค่ะ
愛華しぐま
■Hatsune Miku จาก VOCALOID
ฉันคิดว่า คอสเพลย์เป็นวัฒนธรรมใหม่ของญี่ปุ่นที่น่าสนใจและสามารถแสดงออกมาได้อย่างหลากหลายและกว้างขวาง ฉันคิดว่า น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ก็เลยลองทำอะไรดูหลายๆ อย่างค่ะ งานอีเวนท์ที่ต่างประเทศก็ไปค่ะ ระยะหลังนี้มักจะได้ไปของกระทรวงการต่างประเทศ อย่างเช่น ไปประเทศไทย หรือไม่ก็เป็นคำเชิญจากสถานกงสุลของญี่ปุ่นในประเทศจีนให้ไปในธีม “ขอให้ญี่ปุ่นเข้มแข็ง” กับเพื่อนในทีมบ้าง ซึ่งก็ทำให้ฉันค่อนข้างประหลาดใจเหมือนกัน อ๊ะ แล้วก็มีได้ไปงานอีเวนท์ที่ต่างประเทศกับ AKIRA บ่อยๆ ด้วยค่ะ

Q:ทำกิจกรรมร่วมกันบ่อย?

SHIGMA: ก็มีทำด้วยกันบ้าง ไม่ทำด้วยกันบ้างค่ะ (หัวเราะ) การได้ทำสิ่งที่ชอบอย่างอิสระ ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับคอสเพลย์เยอร์นะคะ เพราะฉะนั้นเราจะคิดตรงกันว่า จะทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เวลาที่มีโอกาสได้ทำงานด้วยกัน เราก็จะทำอย่างเต็มที่ แต่ตอนที่ไม่ทำก็คือไม่ทำเลยค่ะ ความอิสระต้องมาที่หนึ่ง (หัวเราะ) แต่ส่วนใหญ่จะได้แสดงด้วยกันบ่อยนะคะ แล้วก็ได้แสดงร่วมกันกับทีมของฉันด้วย

Q:จุดเปลี่ยนหรือสิ่งที่เปลี่ยนไปหลังจากที่ได้แต่งคอสเพลย์แล้วคือ?

SHIGMA: สิ่งที่เปลี่ยนไปมากเลยคือเรื่องรอบตัวค่ะ การที่ได้เพื่อนที่ชอบสิ่งเดียวกันจากต่างประเทศหรือจากที่อื่นๆ เพิ่มมันเป็นเรื่องที่น่าดีใจมากค่ะ ฉันทั้งแสดงละคร วาดโดจิน เรียนการเขียนบทละคร และเรียนการเป็นช่างภาพด้วย จะว่าไป ที่ฉันทำมาทั้งหมดก็เพราะฉันรู้สึกว่า การสื่อถึงอะไรบางอย่าง หรือการเปลี่ยนตัวเองเป็นใครสักคน “การนึกถึงตัวละครหรือเรื่องของคนอื่น แล้วสื่อมันออกมา มันเป็นเรื่องที่สนุก” น่ะค่ะ แต่ฉันก็นึกสงสัยขึ้นมาเหมือนกันว่า สิ่งที่ฉันได้ทำมาทั้งหมด ฉันจะสามารถนำมันมาใช้ได้ทั้งหมดรึเปล่า เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันก็เลยรู้สึกเหมือนกำลังท้าทายกับเรื่องที่ตัวเองชอบทั้งนั้นเลยค่ะ และการที่ได้มีทีมของตัวเองอยู่ตอนนี้ ก็อาจจะเป็นจุดที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็เป็นไปได้ค่ะ จะว่าไป จุดเปลี่ยนก็มีประมาณ 3 เรื่องนะคะ...(หัวเราะ)แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดเลยคือตอนที่ได้รับเชิญไปงานอีเวนท์ Anime Manga Expo ที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อปี 2006 ในตอนนั้นที่นั่นมีการแสดงคอสเพลย์แบบเคลื่อนไหวด้วย ในขณะที่ในเวลานั้นที่ญี่ปุ่นยังมีการแสดงแบบนั้นน้อยอยู่เลย ฉันรู้สึกตะลึงกับการคอสเพลย์ที่สร้างและแสดงสิ่งที่ตัวเองชอบออกมาได้อย่างอิสระแบบนั้นมากค่ะ ที่ญี่ปุ่น วัฒนธรรมการแสดงคอสเพลย์ออกมาให้เป็นเรื่องราว ยังไม่ใช่กระแสหลักในตอนนั้น เพราะฉะนั้นการไปจีนครั้งนั้น ทำให้ฉันรู้สึกว่า กลุ่มคนที่แสดงคอสเพลย์แบบเคลื่อนไหวนั้นช่างเปล่งประกายเหลือเกิน แล้วฉันก็อยากจะเปล่งประกายแบบนั้นบ้าง นอกจากนั้น ฉันยังได้แสดงเรื่อง MOBILE SUIT GUNDAM SEED ที่กำลังดังอยู่ในตอนนั้นร่วมกับเลเยอร์ชาวญี่ปุ่นและเลเยอร์ชาวต่างประเทศด้วย ฉันได้ร่วมกันสร้างผลงานขึ้นมากับเลเยอร์ญี่ปุ่นที่ไปด้วยกันและคนของทีมที่มาจากจีน ฉันรู้สึกประทับใจมากที่ไม่ได้เป็นแค่คนดู แต่ได้เข้าร่วมทำงานด้วย ทั้งที่มีแต่เรื่องที่ไม่รู้ และยังอยู่ในที่ที่ไม่รู้จัก แต่ฉันดีใจที่มีคนมาชอบอนิเมะ การ์ตูน หรือเกมที่เป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่น แถมยังได้แสดงมันออกมาร่วมกันอีก ถ้าฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ฉันคงนึกไม่ออกเลยว่าตอนนี้ฉันจะกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน จุดนี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ฉันเข้ามาเกี่ยวพันกับคอสเพลย์แบบเคลื่อนไหวค่ะ

ฉันรู้สึกว่า การสร้างทีมขึ้นมา จะทำให้สามารถสร้างงานที่มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิมได้

愛華しぐま 合戦沖
■ปฏิทินชุด OKITA SOUSHI จาก “HAKUOKI”
Q:จากประสบการณ์ที่ได้ไปต่างประเทศในฐานะตัวแทนของคอสเพลย์เยอร์ ญี่ปุ่นและต่างประเทศมีความแตกต่างแตกกันไหม?

ฉันรู้สึกว่า ที่ญี่ปุ่นยังมีความคิดที่ว่า อนิเมะหรือการ์ตูนเป็นเรื่องสำหรับเด็ก ที่มีมาตั้งแต่อดีตเหลืออยู่ แต่ไม่เข้มข้นเหมือนเมื่อก่อน ตอนที่ฉันเริ่มแต่งคอสเพลย์ คนรอบข้างฉันมีปฏิกิริยากับฉันแบบที่ว่า “คอสเพลย์นี่ฉันเข้าไม่ถึงจริงๆ และถึงจะเป็นโอตาคุ ก็ยังไม่สามารถพูดอย่างเต็มปากว่าเป็นความชอบของตัวเอง แต่ในต่างประเทศ อนิเมะของญี่ปุ่นจะถูกมองในฐานะเป็นวัฒนธรรมหนึ่ง และมักจะมีคนพูดว่า “ญี่ปุ่นนี่เท่จริงๆ” “น่าชื่นชม” เสียมากกว่า ช่วงแรกที่ฉันเพิ่งเริ่มไปแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศจากการแต่งคอสเพลย์ ฉันคิดว่าคอสเพลย์เป็นงานอดิเรกที่สามารถเชื่อมโยงความรู้สึกระหว่างคนที่ต่างชาติต่างภาษาเข้าไว้ด้วยกันได้น่ะค่ะ แล้วฉันก็ยังประทับใจกับวัฒนธรรมที่เพื่อนๆ จับกลุ่มกันแสดงคอสเพลย์แบบเคลื่อนไหวด้วยค่ะ แม้ว่าคอสเพลย์เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียวก็ตาม แต่ในต่างประเทศ การแสดงคอสเพลย์แบบเคลื่อนไหว จะเป็นแบบที่ต้องตั้งทีมขึ้น เพื่อจะได้ยกระดับคุณภาพของการคอสเพลย์ขึ้นอีก และจากการได้เห็นการแสดงนี้ในต่างประเทศ ทำให้ฉันในตอนนั้นคิดว่า สักวันฉันจะสร้างทีมแบบนี้ขึ้นมาบ้าง
Q:งานอีเวนท์หรือเหตุการณ์ที่ทำให้ประทับใจคือ?

SHIGMA: งานอีเวนท์ที่ขึ้นแสดงครั้งแรกกับทีม CosPAfo เรื่อง HAKUOKI และงานอีเวนท์ที่แสดงเรื่อง Inazuma Eleven แล้วก็ช่วงขั้นตอนต่างๆ ก่อนแสดงจริงน่ะค่ะ กว่าจะได้ทำจริง มีทั้งความรู้สึกสับสน ลังเล ตื่นเต้น และมีเรื่องยากๆ มากมายเลยค่ะ แต่ว่าก็เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้ทำร่วมกันกับเพื่อนๆ ค่ะ และอีกครั้งหนึ่งคือ ตอนที่คนที่ได้เป็นตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นในแต่ละปี มารวมตัวกับคนที่แสดงคอสเพลย์แบบเคลื่อนไหว ตั้งเป็นทีมญี่ปุ่นขึ้น แล้วขึ้นแสดงบนเวทีร่วมกันค่ะ ตอนก่อนขึ้นแสดงจริง ฉันตื้นตันจนแทบจะร้องไห้เลยล่ะค่ะ จากการที่ได้เข้าร่วม World Cosplay Summit ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมาย ได้เพื่อนต่างประเทศหลายคน แล้วก็เกิดความทรงจำต่างๆ ขึ้นมากมายเลยค่ะ
Previous  |  

WHAT’S NEW

EDITORS' PICKS

  • Fukuoka Ramen Map
  • วิธีท่องเที่ยวคิวชูให้สนุกยิ่งกว่าเดิม!
  • Timeless Trip in Fukuoka ของคุณ Misako Aoki
  • Culture Watch
  • kn_fukuoka_banner_2.jpg
  • banner_pop_culture.jpg

PRESENTS

asianbeat's present campaign!
  • Okasaki Miho, Kumada Akane และ MindaRyn
  • ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง คุณ Aoyama Yoshino, คุณ Suzushiro Sayumi สำหรับ 2 ท่าน
  • Okasaki Miho, Kumada Akane และ MindaRyn
  • ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง Okasaki Miho คุณ Kumada Akane และคุณMindaRyn สำหรับ 2 ท่าน
  • เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์
  • ◆Winner announced! ลุ้นรับของรางวัลจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์" สำหรับ 3 ท่าน