- Home
- คอลัมน์พิเศษ
- คอสเพลย์
- Cosplayers Laboratory
- Cosplayers Laboratory -ประเทศเ...
- Cosplayers Laboratory -ประเทศเ...
- บทสัมภาษณ์ Cosplayers No.10 Ha...
บทสัมภาษณ์ Cosplayers No.10 Haru(1/3)
Previous | Next

โปรเจคยอดนิยม “Cosplayers Laboratory” เวอร์ชั่นเกาหลี! เราจะขอแนะนำเหล่าคอสเพลย์เยอร์ที่มีความสามารถหลากหลายและมีชื่อเสียงในเกาหลีที่คัดสรรมาเพื่อแฟนๆ โดยเฉพาะ
คอสเพลย์เยอร์ในครั้งที่ 10 นี้คือคุณ Haru ที่นิยมคอสเพลย์เป็นคาแรคเตอร์ในเกมยอดนิยมของเกาหลี คุณ Haru เองเป็นคอสเพลย์เยอร์เกาหลีที่เป็นผู้ริเริ่มพิมพ์คอลัมน์ต่อเนื่องที่เกี่ยวกับคอสเพลย์ลงใน Portal Site เกมมาหลายปี!
ลองไปอ่านบทสัมภาษณ์ยาวๆ ของคุณ Haru ที่ชีวิตเปลี่ยนด้วยการคอสเพลย์กันดีเลยค่ะ
คอสเพลย์เยอร์ในครั้งที่ 10 นี้คือคุณ Haru ที่นิยมคอสเพลย์เป็นคาแรคเตอร์ในเกมยอดนิยมของเกาหลี คุณ Haru เองเป็นคอสเพลย์เยอร์เกาหลีที่เป็นผู้ริเริ่มพิมพ์คอลัมน์ต่อเนื่องที่เกี่ยวกับคอสเพลย์ลงใน Portal Site เกมมาหลายปี!
ลองไปอ่านบทสัมภาษณ์ยาวๆ ของคุณ Haru ที่ชีวิตเปลี่ยนด้วยการคอสเพลย์กันดีเลยค่ะ
ตั้งแต่เริ่มคอสเพลย์ ชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างมากเลยค่ะ
Q(asianbeat) : ช่วยเล่าเกี่ยวกับที่มาของชื่อเล่นทีค่ะ
A(Haru) : สวัสดีค่ะ ชื่อเล่นชื่อ Haru ค่ะ
แต่ก่อน ชอบอ่านการ์ตูนเรื่อง “Fruit Basket” มาก และชอบคาแรคเตอร์ในเรื่องที่ชื่อ “โซมะ ฮัทสึฮารุ” มากๆ เลยตั้งฉายาคอสเพลย์ของตัวเองเป็นชื่อนี้ค่ะ
ชื่อฮารุ แม้ในภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่นจะมีความหมายแตกต่างกัน แต่ก็เป็นคำที่ออกเสียงง่าย และ “ฮารุ” ในภาษาเกาหลีจะหมายถึง 1 วัน ส่วนในภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง “ฤดูใบไม้ผลิ” จึงเป็นชื่อที่ถูกใจมากๆ ค่ะ
Q : อะไรที่ทำให้ตัดสินใจเลือกที่จะคอสเพลย์? และตัวละครที่คอสเพลย์ครั้งแรกคืออะไรคะ?
A : ช่วงแรกที่เริ่มคอสเพลย์ก็คือ ตอนสมัยม.ปลายค่ะ ตอนนั้นเข้าชมรมการ์ตูน และเริ่มคอสเพลย์ในอีเวนท์ของงานโรงเรียน
ตอนนั้น ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการคอสเพลย์เท่าไร ทั้งเรื่องการทำเสื้อผ้า เลยไม่ได้คิดเลยว่าต้องทำอะไรมากมายขนาดไหน ต้องลำบากขนาดไหน แค่คิดว่าลองทำไปก่อนก็พอ
แต่ก่อน ชอบอ่านการ์ตูนเรื่อง “Fruit Basket” มาก และชอบคาแรคเตอร์ในเรื่องที่ชื่อ “โซมะ ฮัทสึฮารุ” มากๆ เลยตั้งฉายาคอสเพลย์ของตัวเองเป็นชื่อนี้ค่ะ
ชื่อฮารุ แม้ในภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่นจะมีความหมายแตกต่างกัน แต่ก็เป็นคำที่ออกเสียงง่าย และ “ฮารุ” ในภาษาเกาหลีจะหมายถึง 1 วัน ส่วนในภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง “ฤดูใบไม้ผลิ” จึงเป็นชื่อที่ถูกใจมากๆ ค่ะ
Q : อะไรที่ทำให้ตัดสินใจเลือกที่จะคอสเพลย์? และตัวละครที่คอสเพลย์ครั้งแรกคืออะไรคะ?
A : ช่วงแรกที่เริ่มคอสเพลย์ก็คือ ตอนสมัยม.ปลายค่ะ ตอนนั้นเข้าชมรมการ์ตูน และเริ่มคอสเพลย์ในอีเวนท์ของงานโรงเรียน
ตอนนั้น ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการคอสเพลย์เท่าไร ทั้งเรื่องการทำเสื้อผ้า เลยไม่ได้คิดเลยว่าต้องทำอะไรมากมายขนาดไหน ต้องลำบากขนาดไหน แค่คิดว่าลองทำไปก่อนก็พอ

■ลุคธรรมดาๆ ของคุณ Haru
ถ้าเกิดรู้ก่อนว่ากว่าจะเป็นคอสเพลย์ได้ต้องผ่านกระบวนการมากมายขนาดนี้ ก็คงทำไม่สำเร็จค่ะ
คาแรคเตอร์ที่คอสเพลย์ครั้งแรกเลยก็คือ “ฮิเมมิยะ แอนธี” จากเรื่อง “สาวน้อยนักปฏิวัติ อูเทน่า” ค่ะ เพราะเป็นคนที่มีผิวดำ เลยได้รับเลือกให้คอสฯ คาแรคเตอร์นี้ ซึ่งเป็นชุดที่ท้าทายมากๆ สำหรับคนที่คอสเพลย์ครั้งแรก สรุปคือ คิดว่าทำคนเดียวไม่ไหว เลยไปจ้างร้านตัดค่ะ ในตอนนั้นยังเป็นนักเรียนม.ปลายอยู่ จึงถือว่าเงินที่จ่ายไปค่อนข้างมากสำหรับนักเรียนเลยล่ะค่ะ
ตั้งแต่คาแรคเตอร์ที่ 2 เป็นต้นไป ก็เริ่มทำชุดด้วยตัวเอง ตอนนั้นคอสฯ เป็น เมรุรุ จากเรื่อง “The Vision of Escaflowne” ค่ะ
พอมาคิดเอาตอนนี้ ก็เพิ่งรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่ยังไม่พร้อม แต่ตอนนั้นดีใจมากว่าในที่สุดก็ลองทำคนเดียวได้สำเร็จ! เลยมองว่าชุดที่ตัวเองทำเนี่ยสวยกว่าพวกเสื้อผ้าแบรนด์อีกนะ
คิดว่า “ความคุ้มค่าที่จะทำ” ก็เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกสนุกอย่างนึงในการคอสเพลย์ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากแนะนำให้ทุกคนลองทำด้วยตัวเองนะคะ
Q : ปกติทำกิจกรรมอะไรบ้างคะ?
A : ทำงานในบริษัทเกี่ยวกับเสื้อผ้าค่ะ ทำในส่วนของฝ่ายขาย (MD) ที่คอยดูแลพวกแบรนด์นำเข้า หลักๆ แล้ว ก็จะเป็นงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ คัดเลือก และซื้อสินค้าที่จะนำเข้ามาขายในตลาดของเกาหลีค่ะ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกาหลีของ T แบรนด์จากทั่วโลกค่ะ
สิ่งที่น่าตลกก็คือ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาทำงานเกี่ยวกับเสื้อผ้าตั้งแต่แรก เพราะสมัยเป็นนักเรียนชอบเล่นเครื่องดนตรี และเรียนเกี่ยวกับดนตรีมาตลอด แต่พอเริ่มชอบเกมและการ์ตูนที่มีความสนใจมากขึ้นกว่าเดิมอย่างจริงจัง และเริ่มต้นคอสเพลย์ ชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างมากเลยค่ะ ในตอนแรก ทั้งพ่อและแม่ก็ไม่เห็นด้วยเลย แต่พอเข้ามหาลัย พ่อแม่กลับเป็นคนแนะนำให้เรียนสาขาที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า เลยมาจนถึงจุดนี้ค่ะ ในตอนแรกแม้จะเป็นงานที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าเหมือนกันหมด แต่มันก็มีชอยส์ให้เลือกเยอะจริงๆ ก็ค่อนข้างกลุ้มใจมาก อยากจะทำงานที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า (โดยเฉพาะอาชีพดีไซน์เนอร์) แต่ก็ไม่ค่อยมีความมั่นใจเลยว่า เราจะทำได้จริงหรือเปล่า เราจะทำมันออกมาได้ดีหรือเปล่า มันเป็นงานที่เหมาะกับเราหรือเปล่า ในตอนนั้นก็เลยตัดสินใจพักการเรียนไว้ และเริ่มออกมาทำงานเป็นดีไซน์เนอร์เร็วกว่าที่ควร ตอนนั้นก็ทำทั้งบริษัท PR แฟชั่น งานวางแผนแฟชั่นโชว์ จนในที่สุดก็ได้เลือกงานที่ทำอยู่ในตอนนี้ค่ะ ก็เลยคิดว่า ในเวลาที่เรากลุ้มใจกับความฝันของตัวเอง เราต้องลองพุ่งชนกับมันโดยตรงสักตั้ง เพราะการได้สัมผัสมันจริงๆ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ
คาแรคเตอร์ที่คอสเพลย์ครั้งแรกเลยก็คือ “ฮิเมมิยะ แอนธี” จากเรื่อง “สาวน้อยนักปฏิวัติ อูเทน่า” ค่ะ เพราะเป็นคนที่มีผิวดำ เลยได้รับเลือกให้คอสฯ คาแรคเตอร์นี้ ซึ่งเป็นชุดที่ท้าทายมากๆ สำหรับคนที่คอสเพลย์ครั้งแรก สรุปคือ คิดว่าทำคนเดียวไม่ไหว เลยไปจ้างร้านตัดค่ะ ในตอนนั้นยังเป็นนักเรียนม.ปลายอยู่ จึงถือว่าเงินที่จ่ายไปค่อนข้างมากสำหรับนักเรียนเลยล่ะค่ะ
ตั้งแต่คาแรคเตอร์ที่ 2 เป็นต้นไป ก็เริ่มทำชุดด้วยตัวเอง ตอนนั้นคอสฯ เป็น เมรุรุ จากเรื่อง “The Vision of Escaflowne” ค่ะ
พอมาคิดเอาตอนนี้ ก็เพิ่งรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่ยังไม่พร้อม แต่ตอนนั้นดีใจมากว่าในที่สุดก็ลองทำคนเดียวได้สำเร็จ! เลยมองว่าชุดที่ตัวเองทำเนี่ยสวยกว่าพวกเสื้อผ้าแบรนด์อีกนะ
คิดว่า “ความคุ้มค่าที่จะทำ” ก็เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกสนุกอย่างนึงในการคอสเพลย์ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากแนะนำให้ทุกคนลองทำด้วยตัวเองนะคะ
Q : ปกติทำกิจกรรมอะไรบ้างคะ?
A : ทำงานในบริษัทเกี่ยวกับเสื้อผ้าค่ะ ทำในส่วนของฝ่ายขาย (MD) ที่คอยดูแลพวกแบรนด์นำเข้า หลักๆ แล้ว ก็จะเป็นงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ คัดเลือก และซื้อสินค้าที่จะนำเข้ามาขายในตลาดของเกาหลีค่ะ เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเกาหลีของ T แบรนด์จากทั่วโลกค่ะ
สิ่งที่น่าตลกก็คือ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาทำงานเกี่ยวกับเสื้อผ้าตั้งแต่แรก เพราะสมัยเป็นนักเรียนชอบเล่นเครื่องดนตรี และเรียนเกี่ยวกับดนตรีมาตลอด แต่พอเริ่มชอบเกมและการ์ตูนที่มีความสนใจมากขึ้นกว่าเดิมอย่างจริงจัง และเริ่มต้นคอสเพลย์ ชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างมากเลยค่ะ ในตอนแรก ทั้งพ่อและแม่ก็ไม่เห็นด้วยเลย แต่พอเข้ามหาลัย พ่อแม่กลับเป็นคนแนะนำให้เรียนสาขาที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า เลยมาจนถึงจุดนี้ค่ะ ในตอนแรกแม้จะเป็นงานที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าเหมือนกันหมด แต่มันก็มีชอยส์ให้เลือกเยอะจริงๆ ก็ค่อนข้างกลุ้มใจมาก อยากจะทำงานที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า (โดยเฉพาะอาชีพดีไซน์เนอร์) แต่ก็ไม่ค่อยมีความมั่นใจเลยว่า เราจะทำได้จริงหรือเปล่า เราจะทำมันออกมาได้ดีหรือเปล่า มันเป็นงานที่เหมาะกับเราหรือเปล่า ในตอนนั้นก็เลยตัดสินใจพักการเรียนไว้ และเริ่มออกมาทำงานเป็นดีไซน์เนอร์เร็วกว่าที่ควร ตอนนั้นก็ทำทั้งบริษัท PR แฟชั่น งานวางแผนแฟชั่นโชว์ จนในที่สุดก็ได้เลือกงานที่ทำอยู่ในตอนนี้ค่ะ ก็เลยคิดว่า ในเวลาที่เรากลุ้มใจกับความฝันของตัวเอง เราต้องลองพุ่งชนกับมันโดยตรงสักตั้ง เพราะการได้สัมผัสมันจริงๆ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดค่ะ

■ปรากฎตัวในโฆษณา DJMAX เกมในประเทศเกาหลีที่มีโฆษณาในรถไฟใต้ดินและรถบัสด้วย
Q : เรื่องสนุกๆ จากการคอสเพลย์และเรื่องที่รู้สึกประทับใจมากๆ มีเรื่องอะไรบ้างคะ?
A :ที่จริงมีเยอะมากค่ะ แต่สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดก็คือ การได้เข้าร่วมงานอีเวนท์ของ Final Fantasy 10 ค่ะ ตอนนั้น ในเกาหลี เริ่มมีการทำงานมาร์เก็ตติ้งโดยใช้การคอสเพลย์ เลยลองจัดเป็นอีเวนท์ที่เป็นการรวมตัวของผู้ใช้งานตอนงานประกาศ Final Fantasy 10 ดูค่ะ
ตอนนั้น มีคนบอกให้เราคอสเพลย์เป็นริคคุ เลยได้ออกไปโชว์ตัวบนเวทีในงานอีเวนท์ ซีรี่ส์ของ Final Fantasy เป็นเรื่องที่ชอบมากที่สุดอยู่แล้ว เลยดีใจมากๆ ที่ได้เข้าร่วมอีเวนท์แบบนี้ด้วยค่ะ
แล้วก็ อีกอันนึงที่ทำแปปเดียว ก็คือมุมแนะนำคอสเพลย์ในช่องเคเบิ้ลที่ทำกับเพื่อนที่เป็นคอสเพลเยอร์ แล้วก็การถ่ายโฆษณาของ DJ MAX เกมในเกาหลีก็เป็นอะไรที่สนุกมากๆ เลยค่ะ ตอนนั้นภาพที่ถ่ายก็มีติดอยู่ในรถไฟใต้ดินและรถบัสด้วย แม้จะมีแค่เงามืด แต่คนรอบๆ ก็มาถามว่า “นั่นใช่เธอหรอเปล่า?” (หัวเราะ) เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยค่ะ
ที่จริงแล้ว ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวค่อนข้างจะยุ่งมาก เลยไม่ได้คอสเพลย์มาสักพักนึงแล้ว แต่หมู่นี้ก็เริ่มกลับมาคอสฯ อีกครั้งกับเพื่อนสนิทที่เป็นคนสำคัญมากและไว้ใจเรามาตลอด ในช่วงแรกจะเป็นการคอสเพลย์แบบทีมกับเพื่อนๆ โดยเลือกจาก “เอาอันนี้แหละ ดึงความเท่ออกมาให้สุดๆ ไปเลย!” ประมาณนั้น แต่พอลองทำจริงๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นและสนุกเหมือนตอนที่เริ่มคอสเพลย์แรกๆ เลย การเรียนรู้วัฒนธรรมการคอสเพลย์ที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อน และเทคนิคใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งที่สนุกมาก และได้รับแรงกระตุ้นใหม่ๆ ด้วยค่ะ โดยเฉพาะเวลาและขั้นตอนการเตรียมที่ได้ทำร่วมกับเพื่อน เป็นช่วงที่ชอบมาก เพราะฉะนั้น ก็เลยได้กลับมาคอสเพลย์อีก (หัวเราะ) ในระหว่างที่เตรียมงานกับเพื่อนๆ ก็คิดว่าสำหรับตัวเราแล้ว เสน่ห์ของคอสเพลย์คืออะไร แล้วก็ในทำไมเราถึงได้คอสเพลย์มาตลอดหลายปีแบบนี้ ช่วงเวลาที่ได้ลองคิดถึงสิ่งเหล่านี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากค่ะ
Previous | Next
WHAT’S NEW
EDITORS' PICKS
PRESENTS
asianbeat's present campaign!
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง คุณ Aoyama Yoshino, คุณ Suzushiro Sayumi สำหรับ 2 ท่าน
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง Okasaki Miho คุณ Kumada Akane และคุณMindaRyn สำหรับ 2 ท่าน
- ◆Winner announced! ลุ้นรับของรางวัลจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์" สำหรับ 3 ท่าน