หากจะพูดถึงจังหวัดนางาซากิ สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคือ “ระเบิดนิวเคลียร์" ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ในปัจจุบันเมืองที่เคยโดน Atomic Bomb ที่เรียกว่าย่อยยับเป็นหน้ากลองได้กลับพื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่อีกครั้ง กลายเป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเกาะคิวชู ซึ่งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดนางาซากิคือ Hose Ten Bouch ที่ตั้งอยู่ที่เมืองซาเซโบะ

Hose Ten Bouch หรือ หมู่บ้านฮอลแลนด์ของประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลากว่า 5 ปีในการสร้างรีสอร์ทแห่งนี้ ด้วยดอกไม้ 3 แสนดอก ต้นไม้ 4 แสนต้นและคลองกว่า 6 กิโลเมตร จนกลายเป็นรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น บนพื้นที่ขนาด 1,520,000 ตร.ม. ซึ่งมีขั้นตอนต่างๆเรียนรู้จากชาวฮอลแลนด์ในการปลูกพืช เพื่อให้สามารถปลูกพืชให้สามารถคงอยู่ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีการขุดคลองเพื่อนำน้ำจากอ่าว Omura ให้วิ่งผ่านรอบเมือง เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของฮูสเทนบอช ควบคู่ไปกับการรักษาระบบนิเวศให้เป็นไปตามระบบสากล คือ ใช้อิฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำน้ำที่ใช้แล้วมารีไซเคิลเพื่อใช้ในห้องน้ำ และปรับปรุงคุณภาพของต้นไม้ โดยอาศัยเทคโนโลยีและความรู้ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด



ทันทีที่ก้าวเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ สิ่งที่แรกที่จะสัมผัสได้ คือ ความใหญ่โตราวกับขุนเขาของโรงแรม Hotel Okura JR Huis Ten Bosch ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้า อาคารและบริเวณโดยรอบถูกตกแต่งให้เป็นสไตล์ฮอลแลนด์ ด้วยความกว้างของ Huis Ten Bosch การเลือกใช้เรือล่องไปตามลำคลอง รับสายลมชมวิวสองฝั่งคลองด้วยวิวทิวทัศน์ ทำให้อรรถรสในการท่องเที่ยวครั้งนี้ที่แปลกแตกต่างไปอีกแบบ จนกระทั่งเรือเทียบท่าถึงด้านในสุดของรีสอร์ท การสำรวจพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ผมใช้เวลา 5 ชั่วโมงอยู่ที่ Huis Ten Bosch แห่งนี้ สามารถเที่ยวชมได้แค่โซน ONE PIECE, Japanese Ghost Story Hall, 5D MIRACLE TOUR และ Super Trick Art เท่านั้น แต่มันเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ามาก เนื่องจากความสวยงามในแต่ละจุดที่ผมเดินผ่าน ไม่มีจุดไหนเลยที่จะผ่านไปเฉยๆโดยไม่หยุดที่จะถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเราได้มาเยือนฮอลแลนด์ ณ ดินแดนญี่ปุ่นแห่งนี้

***ฮูสเทนบอชแบ่งออกเป็น 7 โซน ด้วยกันคือ Free Zone, Thriller Fantasy Museum, Art Garden, Utrecht, Binnenstad, Breukelen และ Nieuwstad ซึ่งแต่ละโซนจะมีความแตกต่างกันทางด้านความบันเทิงและการจัดแสดง มีส่วนแสดงที่น่าสนใจดังนี้
Thriller City
Thriller City Illumination ไฟที่กระพริบเป็นจังหวะราวกับเมืองทั้งเมืองแห่งความน่ากลัวนี้จะเต้นได้
Ghost Wedding The Carillon Museum พบเรื่องราวความรักของเจ้าหญิงและอัศวินที่ไม่สามารถลงเอยกันได้ และเต็มไปด้วยจุดจบของความเศร้าโศก
Melody in the Dark Orgelhuis บ้านผีสิงที่ทั้งน่ากลัวทั้งขบขัน พร้อมการเล่นแสงสียามค่ำคืนสวยงามเปล่งประกายคลอเคล้าเสียงเพลง ให้บรรยากาศที่แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง
White Ferris Wheel
ชิงช้าสวรรค์สีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี กลมกลืนกับสภาพบ้านเมืองโดยรอบประดับด้วยดวงไฟกว่า 7 หมื่นหลอดในช่วงค่ำคืน ซึ่งเมื่อคุณได้นั่งชิงช้านี้ คุณจะสามารถเห็นบรรยากาศฮูสเทนบอชทั้งในกลางวันและกลางคืนได้ทั้งหมด
Domtoren
โดมโทรุน หอคอยสูง 105 ม. สัญลักษณ์แห่งฮูสเทนบอช ชมอาคารที่สร้างขึ้นจากอิฐพร้อมทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวโอมุระได้จากดาดฟ้าชมวิวที่ความสูง 80 ม.
Horizon Adventure Plus
โรงละครสมจริงให้คุณสัมผัสความรุนแรงของเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจริงในฮอลแลนด์ ใช้น้ำประกอบการแสดง 800 ตัน เพื่อสร้างหมอก สายฟ้าแลบ คลื่น ฝนฟ้าคะนอง และพายุทอร์นาโด
Japanese Ghost Story Hall
ทริลเลอร์ ซิตี้ คฤหาสน์ตำนานผีญี่ปุ่น จำลองตำนานผีชื่อดังของญี่ปุ่น อาทิ ตำนานแห่งโยซึยะ และตำนานผีจาน ผ่านเทคนิคแสงสีเสียง
Mysterious Escher
มิสเทอเรียส เอชเชอร์ สัมผัสโลกพิศวงของจัตรกรชาวเนเธอร์แลนด์ เอ็ม.ซี. เอชเชอร์ ผู้โด่งดัง เรื่อง "ภาพลวงตา" (อยู่ภายในโซน แอทแทรคชั่น ทาวน์)
Super Trick Art
ซูเปอร์ทริค อาร์ต พิพิธภัณฑ์ "ภาพ 3 มิติ" ที่ทำให้คุณดู สัมผัสและเล่นผ่านเทคนิคการลวงตา
5D MIRACLE TOUR
เพลิดเพลินกับภาพอันน่าประทับใจครั้งแรกของโลกจากจอ LCD ขนาด 60 นิ้ว จำนวน 156 เครื่อง ที่มีภาพปรากฏทุกๆด้านทั้งหน้าหลัง-บนล่าง ซึ่งเป็นการผจญภัย ในอนาคตโดยเราจะถูกคอมพิวเตอร์ส่งไปในโลกต่างๆที่ทำได้เหมือนจริงมากๆ

สวนสนุกที่น่าสนใจอื่นๆ
ONE PIECE สัมผัสโลกของวันพีซ กับเรือโจรสลัดเธาซันด์ซันนี่ไปพร้อมกับเหล่าโจรสลัดหมวกฟาง เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นมากมายบนเรือ
Grand Odyssey โรงภาพยนตร์ที่ให้คุณเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตัวหนังคุณจะได้สัมผัส "ระบบฟิวเจอร์แคสท์" ซึ่งถ่ายรูปผู้เข้าชมภาพยนตร์ทุกท่าน ปรับแต่ง CH และให้คุณโลดแล่นบนจอในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง
Carousel คารูเซิลแปลว่าม้าหมุนในภาษาฝรั่งเศส รถม้าจะหมุนไปราวกับอยู่ในความผัน
Child Kingdom อาณาจักรสำหรับเด็กๆที่จะพาเค้าไปยังโลกแห่งความสนุก

พิพิธภัณฑ์
Teddy Bear Kingdom
ที่นี่เป็นศูนย์รวมของเท็ดดี้แบร์จำนวนมากเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งพลาดไม่ได้สำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่ชื่นชอบเท็ดดี้แบร์ ที่นี่มีเท็ดดี้แบร์กว่า 1,500 แบบ และมีเท็ดดี้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีน้ำหนักถึง 500 กิโลกรัม สูง 3.6 เมตรอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเท็ดดี้แบร์ตั้งแต่สมัย 1900-1950 มารวบรวมเอาไว้เช่นกัน
Glass Museum
ตั้งแต่สมัยเอโดะ แก้วถูกเรียกว่า "กิยะมัน" ซึ่งมีที่มาจากภาษาฮอลแลนด์ว่า "เกียมัน" ที่แห่งนี้ได้รวบรวมแก้วจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่แห่งนี้ พิพิธภัณฑ์แก้วแห่งนี้มีทั้งแชนเดอเลียที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่งโดยแชนเดอเรียนี้มีความสูง 3.5 เมตร กว้าง 2.2 เมตร และ มีน้ำหนัก 750 กิโลกรัม ทำด้วยแก้วและคริสตัลใสทั้งหมด***

หากคุณอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ผมบอกได้เลยว่าคุณได้รู้จักคิวชูเท่าที่ผมได้รู้จัก ขาดเพียงสิ่งเดียว คือ คุณต้องได้มาสัมผัสกับสถานที่เหล่านี้ด้วยตัวของคุณเอง สัมผัสความเชื่อ สัมผัสวัฒนธรรม สัมผัสความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ สัมผัสสถาปัตยกรรมและความยิ่งใหญ่ตั้งแต่ยุคโบราณที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน สัมผัสความใหญ่โตที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ ย่อความงดงามของต่างประเทศให้มาอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ผมเชื่อว่าทั้งหมดนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ที่แตกต่างจากญี่ปุ่นในบริบทเดิมที่คุณรู้จัก และคุณจะได้สัมผัส “คิวชู” ด้วยตัวของคุณเอง สุดท้ายผมอยากจะบอกว่าทริปท่องเที่ยวเกาะคิวชูแห่งนี้มันคุ้มค่ามากจริงๆ ดังนั้นหากท่านใดที่ยังไม่เคยไปญี่ปุ่น ผมว่าคิวชูน่าจะเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆที่คุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน