- Home
- คอลัมน์พิเศษ
- ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เมื่อเดิน...
- แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเกาะคิ...
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเกาะคิวชู โดยคุณบอล ตอนที่ 2 คุมาโมโต้ละนางาซากิ(1/2)
Previous | Next


จากตอนที่แล้วคุณบอลได้พาเราไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าอัศจรรย์ของจังหวัดฟุกุโอกะและจังหวัดโออิตะในเกาะคิวชูไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาดูกันว่าที่จังหวัดคุมาโมโตะและจังหวัดนางาซากินั้น จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรที่น่าสนใจ ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกันอีกบ้าง ตามคุณบอลมาเลยค่ะ
จังหวัดคุมาโมโตะ
เมืองอะโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือนชมปากปล่องภูเขาไฟอะโสะ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอะโสะ คุจูตอนที่กว้างที่สุดในโลก เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวถึง 12 กิโลเมตรซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังคงคุกรุ่นอยู่ โดยภูเขาไฟอะโสะได้ถูกห้อมล้อมไปด้วยทุ่งหญ่าเขียวขจี ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพสวยงามที่มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่และอลังการของภูเขาไฟแห่งนี้




ผมใช้เวลาเพลิดเพลินอยู่ที่ปากปล่องอยู่ครู่หนึ่ง มองลงไปยังด้านล่างเป็นเห็นน้ำโคลนสีขุ่น ที่มีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาอยู่ตลอดเวลา เป็นความตื่นตาตื่นใจมากสำหรับผู้ที่ไม่เคยเห็นปากปล่องภูเขาไฟมาก่อน และยิ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่อีกด้วย การได้มาสัมผัสกับปากปล่องภูเขาไฟอะโสะแห่งนี้เป็นครั้งแรก ทำให้ผมคิดว่าเราเป็นเหมือนมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งของธรรมชาติที่แสนจะยิ่งใหญ่และทรงพลังเช่นนี้ จากนั้นผมก็ใช้เวลาที่เหลือสัมผัสกับธรรมชาติโดยรอบของภูเขาไฟ ซึ่งหากมองจากความสูงบนยอดภูเขาไฟแห่งนี้ จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ทุ่งหญ้าสีเขียวสลับกับภูเขาน้อยใหญ่ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น มองเห็นปุยเมฆอยู่ในระดับสายตา จนเกือบลืมไปว่ามีภูเขาไฟและควันพิษอยู่ด้านหลัง ที่จะพร้อมขย่ำเราได้ตลอดเวลา คิดได้ดังนั้นผมก็รีบนั่งกระเช้ากลับลงไปด้านล่าง เตรียมขึ้นรถเพื่ออำลาภูเขาไฟพร้อมกับความตื่นเต้นและความประทับใจกับการได้ใกล้ชิดภูเขาไฟที่ยังมีชีวิตอยู่ของเมืองอะโสะแห่งนี้
ปราสาทคุมาโมโตะ
ตั้งอยู่ที่เมืองคุมาโมโตะ จังหวัดคุมาโมโตะ จัดเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น จากจุดจอดรถใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 15 นาทีจนถึงตัวปราสาท ระหว่างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งหากมาที่ปราสาทแห่งนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม ท่านจะได้สัมผัสกับความงดงามของดอกซากุระที่แบ่งบานตลอดสองข้างทาง แม้ว่าช่วงที่ผมเดินทางไปจะเป็นเดือนกรกฏาคม สีเขียวของใบไม้ได้ถูกเติมแต่งแทนที่สีชมพูและสีขาวของดอกซากุระ แต่ก็ไม่ทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามน้อยลงไปเลย กลับรู้สึกถึงความสดชื่นด้วยความเขียวชะอุ่มของต้นไม้ใหญ่โดยรอบ

เดินมาได้สักระยะ ก็มาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้าปราสาท เป็นกำแพงรอบนอกที่ป้องกันปราสาทจากผู้รุกราน แต่ไม่สามารถป้องกันเหล่านักท่องเที่ยวจากต่างแดนที่ตั้งหน้าตั้งตามาชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ ผ่านประตูเข้ามาต้องเดินไปอีกประมาณ 10 นาทีเพื่อจะเข้าตีประชิดหน้าปราสาท ทางเดินก่อนถึงปราสาทถูกขนาบไปด้วยกำแพงหินสูงเกือบ 10 เมตร และต้องลอดอุโมงค์ใต้ปราสาทเพื่อจะโผล่ไปยังด้านหน้าของปราสาทแห่งนี้ โดยมีเหล่าซามุไรยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ปลายอุโมงค์ ให้ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่า ครั้งหนึ่งได้มาประชันกับเหล่าซามุไรแห่งเมืองคุมาโมโตะ ทันทีที่ได้เห็นปราสาทเต็มสองตา ก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามของศิลปะการออกแบบของญี่ปุ่นที่มีมาแต่สมัยโบราณ คาดไม่ถึงเลยว่าสถานที่แห่งนี้ คือ ป้อมปราการคอยกำราบศัตรูผู้รุกราน ผมไม่รอช้าที่จะเข้าไปสำรวจด้านใน เพื่อจะได้ประทับรอยเท้าว่าครั้งหนึ่งได้เข้ามาพิชิตปราสาทแห่งนี้แล้ว

เดินมาได้สักระยะ ก็มาหยุดอยู่หน้าประตูทางเข้าปราสาท เป็นกำแพงรอบนอกที่ป้องกันปราสาทจากผู้รุกราน แต่ไม่สามารถป้องกันเหล่านักท่องเที่ยวจากต่างแดนที่ตั้งหน้าตั้งตามาชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ ผ่านประตูเข้ามาต้องเดินไปอีกประมาณ 10 นาทีเพื่อจะเข้าตีประชิดหน้าปราสาท ทางเดินก่อนถึงปราสาทถูกขนาบไปด้วยกำแพงหินสูงเกือบ 10 เมตร และต้องลอดอุโมงค์ใต้ปราสาทเพื่อจะโผล่ไปยังด้านหน้าของปราสาทแห่งนี้ โดยมีเหล่าซามุไรยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ปลายอุโมงค์ ให้ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่า ครั้งหนึ่งได้มาประชันกับเหล่าซามุไรแห่งเมืองคุมาโมโตะ ทันทีที่ได้เห็นปราสาทเต็มสองตา ก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามของศิลปะการออกแบบของญี่ปุ่นที่มีมาแต่สมัยโบราณ คาดไม่ถึงเลยว่าสถานที่แห่งนี้ คือ ป้อมปราการคอยกำราบศัตรูผู้รุกราน ผมไม่รอช้าที่จะเข้าไปสำรวจด้านใน เพื่อจะได้ประทับรอยเท้าว่าครั้งหนึ่งได้เข้ามาพิชิตปราสาทแห่งนี้แล้ว


ภายในปราสาท ถูกกั้นและจำกัดไว้ด้วยทางเดินเล็กๆ เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวหลงออกนอกเส้นทาง ซึ่งถูกตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แสดงถึงประวัติความเป็นมาของปราสาทคุมาโมโตะแห่งนี้ให้ได้ชมตลอดทางจนถึงชั้นบนสุดซึ่งเป็นจุดชมวิว จากจุดนี้นี่เองเราสามารถเห็นเมืองคุมาโมโตะได้ทั้งเมือง และแน่นอนหากเป็นสมัยก่อน ก็จะสามารถเห็นข้าศึกที่เข้ามาโจมตีปราสาทได้อย่างชัดเจนเช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่เห็นคือนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะเข้ามาพิชิตปราสาทคุมาโมโตะเช่นเดียวกับผม



***ประสาทคุมาโมโตะ เป็นปราสาทสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นตั้งอยู่ในเขตชูโอ เมืองคุมาโมโตะ จังหวัดคุมาโมโตะ ได้เริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1601 โดยดำริของคะโต คิโยะมะซะ เจ้าแห่งคุมาโมโตะ เพื่อใช้เป็นป้อมปราการและสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1607 พื้นที่อาณาบริเวณของปราสาทยาวประมาณ 9 กิโลเมตร ตัวปราสาทมีป้อมปืน 49 ป้อม ประตูป้อมปืน 18 ประตู และประตูขนาดเล็ก 29 ประตู มีหอคอยสูง 2 หอ ทำให้สามารถมองได้รอบทิศจากมุมสูง หอใหญ่จะสูง 30.3 เมตร หอเล็กสูง 19 เมตร ปราสาทหลังเดิมถูกเพลิงไหม้เสียหายในปี ค.ศ.1877 ต่อมาได้สร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1960***
Previous | Next
WHAT’S NEW
EDITORS' PICKS
PRESENTS
asianbeat's present campaign!
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง คุณ Aoyama Yoshino, คุณ Suzushiro Sayumi สำหรับ 2 ท่าน
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง Okasaki Miho คุณ Kumada Akane และคุณMindaRyn สำหรับ 2 ท่าน
- ◆Winner announced! ลุ้นรับของรางวัลจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์" สำหรับ 3 ท่าน