Tweet

หลังจากที่เราได้พาเพื่อนๆไปสัมผัสกับความงามของเมืองฟุกุโอกะและเมืองคุมาโมโตะกันไปแล้ว บทความนี้นี้เราจะพาเพื่อนๆAsianbeatไปชมทัศนียภาพที่สวยงามที่เมืองอิบุซูกิ กับกิจกรรมอบทรายร้อน และชมต้นซากุระที่กำลังผลิดอกที่เมืองคาโงชิมะ รับรองเลยค่ะว่า 2 เมืองนี้มีความน่าตื่นเต้นไม่เเพ้เมืองที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ตามมาเลยค่ะ

เมืองนี้ตั้งอยู่ที่แหลมSatsuma สถานที่ที่เป็นไฮไลต์ของเมืองนี้คือรีสอร์ทที่สวยงามและการกิจกรรมอบทรายที่ริมชายหาด นักท่องเที่ยวที่มาเมืองนี้มีจุดประสงค์หลัก นั่นก็คือ “การอบทราย” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น ก็เหมือนกับการเเช่ออนเซนที่ให้น้ำช่วยผ่อนคลาย เเต่การอบทรายนั้นเป็นการบำบัดด้วยเนื้อสัมผัสของทราย และอุณหภูมิในทรายจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราผ่อนคลายนั่นเอง สถานที่ที่อบทรายคือบริเวณชายหาด กิจกรรมอบทรายของที่นี่เริ่มจากการเปลี่ยนชุดยูกาตะ จากนั้นลงไปนอน เจ้าหน้าที่จะนำทรายมากลบตัวเรา อุณหภูมิขณะอบประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 10-15 นาที จากนั้นอาบน้ำล้างตัวเเละต่อด้วยการแช่ออนเซน

Healthy Land ออนเซนที่มีความพิเศษอยู่ที่วิวทะเลและภูเขาKaimondake ที่มีรูปทรงคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิ จากประสบการณ์ได้มีโอกาสไปสัมผัสกับออนเซนหลายที่ เเต่ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นๆ คือ ออนเซนเป็นน้ำเค็ม วิวของที่นี่มีมุมที่เเตกต่างกันออกไป เพราะเเยกบ่อชายหญิงทำให้เห็นวิวความสวยงามในมุมที่ต่างกัน

จากนั้นได้มาสัมผัสบรรยากาศริมทะเลสวยๆที่แหลมอิบุซูกิ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Healthy Land จุดเด่นๆของแหลมอิบุซูกิมี 3 สถานที่ที่น่าสนใจ นั่นก็คือประภาคาร จุดชมวิวที่สามารถเห็นวิวได้รอบทิศภูเขาไฟไคมอนดาเคะที่เปรียบเหมือนภูเขาไฟฟูจิของทางใต้ และศาลริวกิว หรือศาลสำหรับคู่รักที่ได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ลักษณะของเมืองอิบุซูกิแห่งนี้มีสภาพอากาศคล้ายๆทางตอนใต้ของบ้านเราคือมีอากาศร้อนชื้นนั่นเอง

ถัดจากเมืองอิบุซูกิก็มาต่อกันที่เมืองคาโงชิมะเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ทางใต้สุดของเกาะคิวชู เมืองนี้มีทัศนียภาพที่ดูแปลกตาสำหรับคนไทยเพราะอยู่ใกล้ภูเขาไฟขนาดใหญ่ ทำให้เราเห็นวิวภูเขาไฟเเบบเต็มๆ เราสามารถนั่งเรือข้ามไปชมภูเขาไฟแบบใกล้กว่าเดิมได้ และเมืองนี้เป็นเมืองที่มีออนเซนเป็นจำนวนมากถึง 300 แห่งส่วนเรื่องอาหารการกินที่นี่มีหมูดำที่ขึ้นชื่อ มีการหมักสูตรเฉพาะทำให้เนื้อหมูนุ่มละลายในปาก และอีกเมนูที่อร่อยไม่เเพ้กันนั่นก็คือเมนูชาบูหรือทงคัตสึ

เริ่มต้นเที่ยวเมืองคาโงชิมะ เมืองที่มีต้นซากุระที่สวยงามอีกเเห่งของประเทศญี่ปุ่น ที่ริมแม่น้ำKotsukigawa มีต้นซากุระหลายร้อยต้นให้เดินชม สองข้างทางเรียงรายด้วยต้นซากุระที่ผลิดอกสวยงาม เเละร่วงหล่นตามพื้น เรียกได้ว่ามองไปทางไหนก็เห็นเเต่สีชมพูของซากุระ เป็นภาพที่น่าประทับใจและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเดินมาเรื่อยๆจะพบจุดท่องเที่ยวอีกแห่ง คือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมือง บางมุมก็ยังจะเห็นภูเขาไฟซากุระจิม่าได้อย่างชัดเจนในช่วงสายๆไปสถานที่ชมซากุระอีกแห่ง คือ Yoshino Park โดยต้องนั่งรถเมล์ออกไปนอกเมืองตัวสวนมีความร่มรื่นและมีขนาดใหญ่ บรรยากาศเหมาะกับการมาปิคนิคกับครอบครัว มีพ่อแม่พาเด็กๆมาเที่ยวเป็นจำนวนมากจากนั้นก็เที่ยวชมจุดท่องเที่ยวของคาโงชิมะจุดแรก คือ การนั่งเรือเฟอร์รี่ไปสัมผัสภูเขาไฟซากุระจิม่าอย่างใกล้ชิดรถบัสชมวิวประมาณชั่วโมงละรอบ เส้นทางนี้ใช้เวลาไม่นาน มีจุดที่หยุดให้ถ่ายรูปด้วย จากนั้นก็นั่งเฟอร์รี่กลับเข้าเมืองไปที่จุดชมวิวเมืองอีกจุด คือ Shiroyama Park จุดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขากลางเมือง มองเห็นทั้งบรรยากาศเมืองและภูเขาไฟซากุระจิม่า ถ้าได้มาช่วงสุดสัปดาห์จะมี Night Bus ที่สามารถพาชมวิวตอนเย็นรอบเมืองอีกด้วย จากนั้นก็ไปเดินช้อปปิ้งหาของกินอร่อยๆที่ย่าน Tenmonkan ก่อนจะกลับ

เมืองอิบุซูกิและเมืองคาโงชิมะ ใช้เวลาเดินทางจากฟุกุโอกะไม่ถึงสองชั่วโมง เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพที่สวยงามของธรรมชาติ คุณจะได้สัมผัสกับความอลังการของภูเขาไฟ ต้นซากุระจำนวนมาก ได้ลิ้มลองอาหารที่เป็นสูตรเฉพาะของเมือง วัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนที่นี่ รวมถึงกิจกรรมอบทรายเเละเเช่ออนเซนไปพร้อมๆกับการชมวิวธรรมชาติที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังอีกแห่งในญี่ปุ่น รอให้มาสัมผัสกันที่เมืองทางใต้สุดสายเส้นทางรถไฟชิงกันเซนในเกาะคิวชู




ติดตามการผจญภัยเรื่องอื่นๆโดย คุณรภรัตน์สุขาภิรมย์ ได้ผ่านทางเว็บ www.roparat.com

*รูปภาพได้รับการอนุญาตให้นำมาลงที่เว็ปไซต์ asianbeat.com แล้ว