Tweet

งานฉายอะนิเมะเรื่อง “MECHA-UDE” ที่ผลิตโดย TriF Studio ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟุกุโอกะ จัดขึ้นบนเวทีวันที่ 2 ในงาน “Kitakyushu Pop Culture Festival 2019” (จากนี้จะเรียกว่า KPF) ผลงานนี้เป็นเรื่องราวของฮิคารุ นักเรียนม.ต้นธรรมดาๆ ที่ได้พบเจอกับอารุมะ รูปแบบสิ่งมีชีวิตคล้ายเครื่องจักรที่มีรูปร่างเป็นแขน (MECHA-UDE) และทำการต่อสู้กับเหล่าเด็กๆ ที่ใช้ MECHA-UDE แบบอื่นๆ ในงานฉายหนัง มีคุณ Toyonaga Toshiyuki ผู้ที่พากย์เสียงตัวละครเอก ฮิคารุ และผู้กำกับ OKAMOTO และคุณ Matuyama Hiroshi ตัวแทนจาก CyberConnect2 บริษัทเกมในฟุกุโอกะที่ทำหน้าที่กำกับดูแลเรื่องทั่วไปมาร่วมด้วย มีการพูดคุยพลางดูอะนิเมะที่เป็นเรื่องราวนำร่องตอนที่ 4 จากทั้งหมด 12 ตอน

ต้นแบบเมืองคิตะคางามิที่เป็นฉากในเรื่องมีที่มาจากเมืองคิตะคิวชู เมื่อฉากของพื้นที่โรงงานและทิวทัศน์ที่คล้ายกับสถานีโคคุระฉายขึ้นบนสกรีน ผู้เข้าร่วมทุกคนมีสีหน้าพึงพอใจกับผลงานที่เห็น “เหมาะสมกับมุมมองของโลก” “รายละเอียดของสนิมมันดูสมจริงมากเลย!” คุณ OKAMOTO สั่งคุณ Toyonaga ตอนอัดเสียงว่า “ปรับเสียงให้ดูอายุน้อยลงกว่านี้อีกสัก 1 ปีซิ” คุณ Toyonaga กล่าวว่า “เสียงช่วงปีแรกที่เริ่มเข้าวัยรุ่นมันใหญ่ไป ก็เลยเปลี่ยนแทบจะในทันที” อีกทั้งคุณ Toyonaga เองก็ยังเป็นแฟน MECHA-UDE ด้วย พลางเล่าถึงความรู้สึกที่มีต่อผลงานเรื่องนี้ว่า “งานกล้องในฉากแอคชั่นมันเท่มาก” “การเจรจาต่อรองกับคุณ Sugita Tomokazu ที่เล่นบทอารุมะก็สนุกมาก” เรื่องราวฉบับนำร่องนี้จะมีให้ชมเป็นระยะเวลากำจัดถึงวันอังคารที่ 31 ธันวคามนี้เท่านั้น ถือโอกาสนี้ไปชมกันให้ได้นะคะ! คลิกชมตัวอย่างได้ (>> ที่นี่!)

TriF Studio ที่ผู้กำกับ OKAMOTO สังกัดอยู่นั้น มาออกบูธ “MECHA-UDE” ภายในงาน KPF ด้วย ภายในบูธมีนิทรรศการจัดแสดงผลงานต่างๆ เช่น Scenography รวมถึงจำหน่ายสินค้าต่างๆ จากอะนิเมะ ทางเราได้ไปเยือนถึงบูธพร้อมกับสัมภาษณ์ความรู้สึกในการผลิตผลงานกับผู้กำกับที่กำลัง PR อยู่!

รถแต่งลายธีม “MECHA-UDE” ที่ห่อหุ้มด้วยดีไซน์ใหม่ ไม่เหมือนกับ KPF2018 รอบที่แล้ว

asianbeat (ต่อจากนี้จะเรียกว่า ab)：รู้สึกประทับใจอะไรในการฉายอะนิเมะครั้งนี้คะ?

ผมดีใจที่รู้ว่าคุณ Toyonaga พูดคุยกับคุณ Sugita อัดเสียงพากย์พลางปรึกษากันและหัวเราะไปด้วยกันครับ เพราะผมออกแบบให้ความสัมพันธ์ของฮิคารุกับอารุมะเป็นเหมือนคนปล่อยมุขกับคนตบมุข บรรยากาศดีๆ ในหน้างานอัดเสียงจะต้องปรากฎในผลงานแน่นอน เป็นสิ่งที่ผมได้ย้อนกลับมาคิดอีกครั้งครับ

ab：โปรเจ็คเมมเบอร์ ประกอบไปด้วยกลุ่มนักพากย์ขั้นเทพอย่างคุณ Toyonaga, คุณ Sugita และคุณ Park Romi และมีคุณ Eve ที่มาดูแลในส่วนของการเขียนเพลงและร้องเพลง OP มีแต่สมาชิกในวงการทั้งนั้น รู้สึกถึงความกดดันในฐานะผู้สร้างผลงานอะนิเมะอายุน้อยในวัย 27 ปีบ้างไหมคะ?

ตื่นเต้นมากเลยครับ มันเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานมากที่ได้รู้สึกว่าขณะที่ผมทำงานกับผู้คนที่ทำงานอยู่แถวหน้านั้นผลงานนี้ได้รับการนำขึ้นมาทำใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ ผมอยากทำงานกับคนเหล่านี้ต่อไปในอนาคตในขณะที่ผมก็อยากจะมีความรู้สึกไม่อยากยอมแพ้กับตัวเองด้วยครับ

ab：จากกระบวนการผลิตงานมาจนถึงตอนนี้ ช่วงวินาทีที่ตื่นเต้นที่สุดคือช่วงไหนคะ?

ก็คงจะเป็นช่วงที่เปิดตัว “เรื่องราวฉบับนำร่อง” ครั้งแรกให้กับผู้สนับสนุนการระดมทุนในปี 2018 น่ะครับ ก่อนที่จะระดมทุนในตอนนั้นพวกผมยังแทบจะไม่เป็นที่รู้จักเลย แต่พวกเขากลับให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี มันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้คิดกับตัวเองว่าต้องตอบแทนคนเหล่านี้และในที่สุดนี่ก็คือสิ่งหนึ่งที่ผมได้มาให้กับพวกเขาครับ

ab：การผลิตผลงานใช้ทีมงานกี่คนคะ?

ที่หลักๆมีประมาณ 5คนครับ ปกติพวกเขาจะรับผิดชอบงานทำ CM ที่รีเควสมาจากลูกค้าอยู่แล้ว ในส่วนของอะนิเมะที่ผลิตขึ้นเองก็หาเวลาทำไปเรื่อยๆ

ab：กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ครบทั้ง 12 ตอน ถ้าเปรียบเสมือนการปีนขึ้นภูเขา คิดว่านี่เป็นระดับขั้นที่เท่าไรคะ?

รู้สึกว่าในที่สุดก็มาถึงที่ตีนเขาขณะที่หลงทางไปมาอยู่หลายที่ ผมคิดว่าความยากลำบากรออยู่แน่ๆแต่ถึงจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตามผมมองเห็นเส้นทางอย่างชัดเจนและเป็นวิธีเดียวที่จะต้องปีนขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นผมคิดว่าการได้มาถึงตรงนี้เป็นการก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมก็อยากทำผลงานที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่ว่า “เท่จัง” นี้ให้เสร็จสมบูรณ์ให้ได้! ก่อนอื่น อยากให้คนจำนวนมาก หรือแม้แต่คนเดียวในโลกได้รู้จักกับ “MECHA-UDE” เลยอยากให้ทุกคนถือโอกาสพิเศษนี้ติดตามชมเรื่องราวฉบับนำร่องนี้กันดูครับ! (>> ที่นี่!)