- Home
- คอลัมน์พิเศษ
- บริโภค (คุรุเมะ)
- แนะนำอาหารท้องถิ่นจากฟุกุโอกะ ...
แนะนำอาหารท้องถิ่นจากฟุกุโอกะ ในกรุงเทพฯ "ร้านยามาโกย่า ราเม็ง 九州筑豊ラーメン山小屋"(1/3)
Previous | Next

ราเม็งสไตล์ฮากาตะ กำเนิดที่ฟุกุโอกะ "ยามาโกย่า ราเม็ง"
มาพบกันอีกแล้วกับคอลัมน์พิเศษ “แนะนำร้านเด็ด อาหารดัง จังหวัดฟุกุโอกะ” คราวนี้เราจะมาแนะนำเมนู"ราเม็ง"ที่ทุกคนชื่นชอบในสไตล์ของฟุกุโอกะ โดยครั้งนี้ร้านที่นำมาแนะนำก็คือร้านต้นตำหรับกว่า 40 ปีที่ถือกำเนิดจากจังหวัดฟุกุโอกะ ตัวจริง เสียงจริง และอร่อยจริง "ยามาโกย่า"ราเม็ง จะเข้มข้น อย่างไรนั้นไปดูกันเลย!
เริ่มจากการชักชวนจากคนแปลกหน้า จนกลายเป็นธุรกิจขึ้นมา
เรื่องราวของยามาโกย่าที่เมืองไทยนั้น เริ่มต้นจาก ระหว่างที่มาทัวร์ตีกอร์ฟที่เมืองไทยกับเพื่อนๆของคุณโอกะตะ ประธานบริหารและเจ้าของสูตรยามาโกย่า ราเม็ง ก็ได้มีโอกาสมาแวะชิมราเม็งของร้านต่างๆในกรุงเทพ จึงทำให้ คุณ โอกาตะ ผู้บริหารและเจ้าของกิจการยามาโกย่า ราเม็ง เห็นว่าถ้าเอายามาโกย่า ราเม็งมานำเสนอให้คนไทยได้ลองรสชาติสไต์ฮากาตะดู คนไทยก็น่าจะติดใจเหมือนกัน แต่ยังเป็นแค่ความคิดลอยๆจนได้รับการทาบทามจากคุณสันติ ภิรมณ์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท สิงห์ คอปเปอร์เรชั่น หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของเบียร์สิงห์ คุณโอกาตะจึงถือโอกาสหลังได้รับการชักชวนเข้ามาพรีเซ้นต์ผลงานการทำราเม็งสไตล์ฮากาตะที่ถือกำเนิดมาจากฟุกุโอกะโดยขนวัตถุดิบสดๆทั้งหมดขึ้นเครื่องมาแสดงวิธีการทำกันสดๆที่บริษัทสิงห์ฯ ด้วยรสชาติที่เข้มข้นอร่อยจริงๆและความตั้งใจในการที่จะมาทำธุรกิจราเม็งที่เมืองไทยของคุณโอกาตะนั้นทำให้ได้มี ยามาโกย่า ราเม็ง สาขาแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมาและยังได้ขยายกิจการต่อๆมาอีก ไม่เพียงแต่ ยามาโกย่า ราเม็งเท่านั้นที่ได้ขนานนามว่าเป็นราเม็งจากจังหวัดฟุกุโอกะ อีกทั้งยังมี "บาซารากะ"ราเม็ง อีกหนึ่งแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ลูกของยามาโกย่า ราเม็งก็ได้มาเปิดสาขาที่เมืองไทยด้วยเช่นกัน ความแตกต่างระหว่าง ยามาโกย่า และ บาซารากะ นั้นแตกต่างกันแค่ปริมาณในการบริโภคซึ่ง บาซารากะ ราเม็งจะเป็นสาขาย่อยที่มีราคาย่อมเยาและปริมาณที่อิ่มกำลังพอดี แต่สำหรับ ยามาโกย่า นั้นต้องขอบอกว่ามาแบบจัดเต็ม ทั้งรสชาติและปริมาณที่เข้มขนจนบอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับการได้มาลิ้มลองรสชาติเข้มข้นสไตล์เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น สมกับเป็นราเม็งที่ดุดันสไตล์เกาะคิวชูเลยทีเดียว

เมนูเด็ดของร้าน
ยามาโกย่า ราเม็ง
จากการคิดค้นสูตรด้วยตัวเองของคุณโอกาตะ ด้วยประสบการณ์ในวงการราเม็งกว่าหลายสิบปีจนออกมาเป็นสูตรเฉพาะ ยามาโกย่า ราเม็ง ซึ่งเข้มข้นด้วยน้ำต้มกระดูกหมูสูตรเฉพาะในแบบของยามาโกย่า ซึ่งใช้เวลาในการเขี้ยวจนข้นนานกว่าหนึ่งวันจนได้ความมันที่ไม่เลี่ยนจนเกินไป ผสมผสานกับชาชูรสเด็ดที่ผ่านการทอดแล้วน้ำไปหมักซีอิ้ว ซึ่งโดยปรกติแล้วชาชูจะนำไปต้มแล้วหมักกับซีอิ้ว และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของยามาโกย่าในการปรุงหมูชาชูรสเลิศให้เข้ากับน้ำซุปต้มกระดูกหมูสุดเข้มขนแบบนี้เช่นกัน ยังไม่นับไข่ยางมะตูมที่ถูกหมักด้วยซีอิ้วจนสีภายนอกของไข่ขาวเป็นสีน้ำตาลคาราเมลอ่อนเพิ่มรสชาติของไข่ผสมกับน้ำต้มกระดูกได้อยากลงตัว อีกทั้งยังมีงาขาวบดที่เป็นสไตล์ของฟุกุโอกะ ซึ่งจะได้กลิ่นหอมของงาเบาๆเข้ากันกับต้นหอมซอยและหมูชาชูกำลังพอดี เป็นการผสมผสานกันที่ลงตัวและดุดันในแบบฉบับของภาคใต้ของญี่ปุ่นและสไตล์ของคุณโอกาตะเลยก็ว่าได้

เมนูแนะนำพิเศษ การผสมผสานกันระหว่าง ญี่ปุ่น+จีน และ เกาหลี
จริงๆแล้วคงต้องลองเข้าไปดูเมนูของที่ร้านแล้วจะพบว่าความหลากหลายของยามาโกย่านั้นไม่ใช่มีความเด็ดอยู่ที่เมนูต้นฉบับอย่างยามาโกย่าราเม็งอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีเมนูอีกหลายๆเมนูที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของกลิ่นอายทางใต้ของญี่ปุ่นเช่น "ชิโอะโกจิ ราเม็ง" ราเม็งซุปต้มกระดูกหมูเข้มข้นผสมเกลือตัดความเลี่ยนกำลังพอดีด้วยสูตรเฉพาะแบบยามาโกย่า หรือจะเป็น "มิโซะ ราเม็ง" ซึ่งไม่ได้มีดีแค่การผสมมิโซะลงไปเพื่อเพิ่มความหวานมันเท่านั้นแต่ในแบบฉบับของยามาโกย่านั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ "ทงคสึ ซุป" แบบ มิโซะ ทงคสึ ซึ่งให้รสชาติหวานมันเข้มข้นน่าลิ้มลองอีกทั้งยังมี "ทาคานะ ราเม็ง" ราเม็งโรยหน้าด้วยผักดอก ของดีจากทางใต้ให้รสชาติกำลังพอดีเบาๆไม่หนักเกินไปเหมาะสำหรับคนที่ชอบราเม็งรสชาติเข้มข้นแต่ไม่อยากรับประทานรสที่เลี่ยนมากเกินไป
และในครั้งนี้ทางยามาโกย่า ราเม็งก็ได้แนะนำเมนูใหม่ ซึ่งผสมผสานกันระหว่างความเป็นญี่ปุ่นทางใต้อย่างฟุกุโอกะ และ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีรวมตัวกันเป็นเมนูลูกครึ่ง อย่าง "ไบโก ราเม็ง" ราเม็งซุปกระดูกหมูเข้มข้นสไตล์ฟุกุโอกะผสมผสานกับความมันอย่างไก่ทอดสไตล์จีนเพิ่มความกรุบกรอบของเครื่องในราเม็งผสมความความนุ่มของชาชูต้นตำหรับได้อย่างลงตัว
อีกทั้งยังมีราเม็งลูกครึ่งสไตล์เกาหลีอย่าง "กิมจิ ราเม็ง" ซึ่งแน่นอนพระเอกประจำของเราก็คือน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นสไตล์ฟุกุโอกะผสมผสานกับความเผ็ดเปรี้ยวกำลังพอดีของกิมจิคัดพิเศษทำให้เกิดความลงตัวไม่เข้มข้นเกินไปแต่สัมผัสได้ถึงความกลมกล่อมในแบบที่ไม่เหมือนใคร
และในครั้งนี้ทางยามาโกย่า ราเม็งก็ได้แนะนำเมนูใหม่ ซึ่งผสมผสานกันระหว่างความเป็นญี่ปุ่นทางใต้อย่างฟุกุโอกะ และ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีรวมตัวกันเป็นเมนูลูกครึ่ง อย่าง "ไบโก ราเม็ง" ราเม็งซุปกระดูกหมูเข้มข้นสไตล์ฟุกุโอกะผสมผสานกับความมันอย่างไก่ทอดสไตล์จีนเพิ่มความกรุบกรอบของเครื่องในราเม็งผสมความความนุ่มของชาชูต้นตำหรับได้อย่างลงตัว
อีกทั้งยังมีราเม็งลูกครึ่งสไตล์เกาหลีอย่าง "กิมจิ ราเม็ง" ซึ่งแน่นอนพระเอกประจำของเราก็คือน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นสไตล์ฟุกุโอกะผสมผสานกับความเผ็ดเปรี้ยวกำลังพอดีของกิมจิคัดพิเศษทำให้เกิดความลงตัวไม่เข้มข้นเกินไปแต่สัมผัสได้ถึงความกลมกล่อมในแบบที่ไม่เหมือนใคร


Previous | Next
WHAT’S NEW
EDITORS' PICKS
PRESENTS
asianbeat's present campaign!
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง คุณ Aoyama Yoshino, คุณ Suzushiro Sayumi สำหรับ 2 ท่าน
- ◆ Winner announced! ลุ้นรับกระดาษสีพร้อมลายเซ็นจากวง Okasaki Miho คุณ Kumada Akane และคุณMindaRyn สำหรับ 2 ท่าน
- ◆Winner announced! ลุ้นรับของรางวัลจาก "เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว Scarlet Bond เวอร์ชั่นภาพยนตร์" สำหรับ 3 ท่าน